หลังจากที่ Pantone หน่วยงานจัดระบบการตั้งรหัสมาตรฐานสีและวิเคราะห์เทรนด์สีสัญชาติอเมริกันได้ออกมาประกาศให้สี ‘อัลตราไวโอเล็ต’ เป็นเทรนด์สีประจำปี 2561 แบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องสำอาง ต่างก็นำเสนอสินค้าในโทนสีม่วงเพื่อเอาใจคุณสาวๆ ให้เลือกช้อปกันได้อย่างไม่ตกเทรนด์
เทรนด์สีประจำปี 2561 โดย Pantone
ภาพจาก: https://www.pantone.com
สำหรับในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับนั้น หากให้ลองนึกถึงอัญมณีสีม่วงขึ้นมาสักชนิดหนึ่งแล้วล่ะก็‘แอเมทิสต์’ คือชื่อที่จะปรากฎเป็นลำดับแรกอย่างแน่นอน
ทำความรู้จักแอเมทิสต์
เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่อัญมณีสีม่วงในตระกูลควอตซ์ นามว่า‘แอเมทิสต์’ (Amethyst)เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและมีความเกี่ยวโยงกับอารยธรรมความเชื่อต่างๆ ของมนุษย์ชื่อของมันมาจากคำในภาษากรีกว่า ‘Amethystos’ หมายถึง การมีสติ ปราศจากความมึนเมา อันมีที่มาจากเรื่องเล่าในตำนานการเกิดแอเมทิสต์อันเกี่ยวพันกับเทพเจ้าของกรีกและโรมันโบราณ โดยชาวกรีกและโรมันเชื่อกันว่าแอเมทิสต์มีฤทธิ์ช่วยป้องกันภาวะการมึนเมาจากสุรา และช่วยให้ผู้ครอบครองคงความมีสติสัมปัชชัญญะไว้ได้
แอเมทิสต์กับชีวิตหลังความตาย
อียิปต์หนึ่งในชาติที่เป็นต้นกำเนิดแห่งอารยธรรมโบราณก็มีวัฒนธรรมความเชื่อที่เกี่ยวโยงกับแอเมทิสต์เช่นกัน โดยในคัมภีร์มรณะ (Book of Dead) ของชาวอียิปต์โบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น เทพอะนูบิส (เทพซึ่งมีใบหน้าเป็นสุนัขสีดำ) จะนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปพบกับเทพโอซิริส (เทพผู้คุมปากประตูนรก) เพื่อพิพากษาความดีความชั่วของดวงวิญญาณนั้นๆ วิธีพิพากษาของเทพโอซิริสคือ การนำเอาหัวใจของดวงวิญญาณนั้นมาวางบนตราชั่งเพื่อเปรียบเทียบน้ำหนักกับขนนกแห่งเทพีมาอัต เทพแห่งความยุติธรรม หากหัวใจของผู้ตายมีน้ำหนักเบากว่าขนนกแสดงว่าเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ ดวงวิญญาณนี้ก็จะถูกส่งไปยังแดนสวรรค์ แต่หากว่าหัวใจนั้นหนักกว่าขนนกหมายความว่าดวงวิญญาณนี้ได้ก่อกรรมทำชั่วไว้มากและจะต้องถูกส่งไปยังนรกภูมิ
แต่หากผู้ตายนั้นคือฟาโรห์ กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรอียิปต์ นอกจากเหล่าข้าราชบริพารจะต้องตระเตรียมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงเพชรนิลจินดาจำนวนมาก เพื่อบรรจุในพิระมิดสำหรับชีวิตในโลกหน้าแล้ว ยังต้องนำแอเมทิสต์ที่ตัดแต่งให้มีรูปทรงคล้ายหัวใจของมนุษย์วางลงบนหน้าอกมัมมี่ของฟาโรห์ ด้วยเชื่อกันว่าแอเมทิสต์สามารถชำระล้างจิตใจและดวงวิญญาณของฟาโรห์ให้สะอาดบริสุทธิ์พร้อมสำหรับการเดินทางไปยังดินแดนสวรรค์อันอุดมไปด้วยความสุขสมบูรณ์
แอเมทิสต์กับความเชื่อ
แอเมทิสต์ ถูกยกย่องให้เป็นพลอยศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญในศาสนาคริสต์อีกด้วย โดยในคัมภีร์ไบเบิ้ลได้กล่าวว่า แอเมทิสต์เป็น 1 ในอัญมณี 12 ชนิด ที่มีความสำคัญต่อคริสต์ศาสนา จึงถูกนำมาใช้ประดับบนเสื้อคลุมของพระชั้นผู้ใหญ่ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าแอเมทิสต์มีพลังในการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บและอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น บรรเทาอาการปวดศีรษะ กระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต รวมถึงรักษาอาการนอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยปรับและเสริมสร้างสมดุลในร่างกายแล้ว มันยังช่วยสร้างสมดุลทางอารมณ์ได้ดีอีกด้วย ด้วยสีม่วงที่ให้ความรู้สึกลึกลับ สุขุม สงบเยือกเย็น มันจึงช่วยขจัดความเครียด เสริมสร้างสมาธิ และกระตุ้นให้เกิดความสงบสุขภายในจิตใจ
แอเมทิสต์เป็นพลอยที่บรรดาศิลปินในแขนงต่างๆ มักมีไว้ติดตัว ด้วยเชื่อกันว่ามันช่วยกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจและก่อให้เกิดพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในด้านความรักนั้น แอเมทิสต์ก็มีชื่อเสียงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพลอยชนิดอื่น เชื่อกันว่าแอเมทิสต์ช่วยเสริมพลังบวกในเรื่องของความรัก ด้วยเป็นอัญมณีซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรักเชื่อกันว่า แหวนที่เซนต์วาเลนไทน์สวมเป็นประจำ ตกแต่งด้วยแอเมทิสต์ที่แกะสลักรูปคิวปิดเทพเจ้าแห่งความรัก อีกทั้งยังเป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก และยังเป็นอัญมณีที่คู่แต่งงานนิยมมอบเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานปีที่ 4, 6 และ 17 อีกด้วย
เห็นทีว่าในปี 2561 นี้ คงจะเป็นปีทองของแอเมทิสต์เสียแล้วล่ะมัง!
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กุมภาพันธ์ 2561
--------------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง:
1. Amethyst: February Birthstone. Alluring Body.
https://www.alluringbody.com/pages/amethyst
2. Amethyst Meanings and Uses. Crystal Vaults.
https://www.crystalvaults.com/crystal-encyclopedia/amethyst
3. Anniversary Chart – Gemstone and Jewelry Gifts. Bernardine Fine Art Jewelry.
http://www.bernardine.com/jewelry-anniv.htm
4. พลอยประจำเดือนเกิด กุมภาพันธ์ – แอเมทิสต์ (Amethyst). Rimmoei Gem.
http://rimmoei-gem.blogspot.com/2010/06/amethyst.html
*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ