TH
CPTPP มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเวียดนาม
วันที่ 14 มกราคม 2562 ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเวียดนาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2561 CPTPP ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการใน 6 ประเทศประกอบด้วย เม็กซิโก ญี่ปุ่น สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ แคนาดา และออสเตรเลีย ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมในเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุนเพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก ทั้งในประเด็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 11 ประเทศ คือ แคนาดา ออสเตรเลีย บรูไน ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม
Pham Hong Hai ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HSBC Bank (Vietnam) Limited กล่าวว่า “ในขณะที่การเจรจาทางการค้าในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป การมีผลบังคับใช้ของ CPTPP พิสูจน์ว่ารัฐบาลเวียดนามมุ่งมั่นที่จะเลือกระบบการซื้อขายแบบเปิดเสรีและเป็นไปตามกฎระเบียบ” นอกจากนี้ CPTPP ยังช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากมีการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ เช่น การป้องกันอีคอมเมิร์ซและข้อมูล
CPTPP จะช่วยลดอัตราภาษีลงถึงร้อยละ 95 ของภาษีการค้าระหว่างคู่ค้า เวียดนามคาดการณ์ว่าจะได้รับประโยชน์จากการค้าขายโดยเฉพาะการส่งออก รวมถึงการยกเลิกภาษีสิ่งทอและรองเท้าจากสมาชิกส่วนใหญ่ของ CPTPP เมื่อมีผลใช้บังคับ ถึงแม้ว่าผลประโยชน์จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงการค้าทวิภาคีหรือพหุภาคีแล้ว แต่เวียดนามจะได้รับผลประโยชน์จากแคนาดาเพิ่มขึ้น เนื่องจากแคนาดาเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาสมาชิก CPTPP และเวียดนามยังไม่มีการทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี เวียดนามมุ่งมั่นที่จะลดอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 94.9 หรือคิดเป็นร้อยละ 77.9 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของเวียดนาม สำหรับเม็กซิโกและเปรูก็เช่นกันเพราะสินค้านำเข้าและส่งออกของตลาดทั้งสองนี้ช่วยส่งเสริมการค้าของเวียดนาม
โดยรวมแล้วสมาชิก CPTPP มีประชากร 500 ล้านคนและคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของการค้าทั่วโลก และร้อยละ 13 ของ GDP โลก จำนวนดังกล่าวรวมถึงประเทศที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรอง (บรูไน ชิลี มาเลเซีย และเปรู) นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม เช่น ไทย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ไต้หวัน และสหราชอาณาจักร
CPTPP ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นการค้าของประเทศสมาชิก แต่คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 การส่งออกของประเทศในกลุ่ม CPTPP จะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 6 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามจะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 8 ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเส้นทางทางการค้าของโลกที่มุ่งไปยังประเทศในกลุ่ม CPTPP เนื่องจากมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากการที่สามารถเข้าถึงตลาดได้ดีขึ้น
การดำเนินการตาม CPTPP จะก่อให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นในทศวรรษหน้าเนื่องจากภาษีศุลกากรที่ยังคงเหลืออยู่ส่วนใหญ่จะหมดไป จากการสำรวจล่าสุดของ HSBC พบว่าบริษัทในประเทศสมาชิก CPTPP เกือบ 10 แห่ง (คิดเป็นร้อยละ 39) รวมถึงบริษัทในเวียดนามเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเหลือธุรกิจของพวกเขาทั้งในทางตรงและทางอ้อม “ข้อตกลงทางการค้า FTA เช่น CPTPP จะทำให้ขั้นตอนการนำเข้าและส่งออกสินค้าง่ายขึ้นและลดต้นทุนในการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น CPTPP ช่วยทำให้ธุรกิจในตลาด CPTPP สามารถใช้ปัจจัยการผลิตที่มาจากตลาด CPTPP อื่น ๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติเทียบเท่าภายในประเทศ “ด้วยเหตุนี้ CPTPP จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด” นาย Pham Hong Hai กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : https://www.vir.com.vn/cptpp-goes-live-in-vietnam-65237.html
