หน้าแรก / THTI Insight / ข้อมูล นำเข้า-ส่งออก / สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างดือนมกราคม-ธันวาคม 2561

สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างดือนมกราคม-ธันวาคม 2561

กลับหน้าหลัก
04.02.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 2963

สถานการณ์การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ระหว่างดือนมกราคม-ธันวาคม 2561

การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2561 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 6.62 (ร้อยละ 11.77 ในหน่วยของเงินบาท)  หรือมีมูลค่า 11,976.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (383,656.52 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีมูลค่า 12,825.26 ล้านเหรียญสหรัฐ (434,825.28 ล้านบาท) นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 3 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.74 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำพบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 7,604.64 ล้านเหรียญสหรัฐ (243,743.92 ล้านบาท) ซึ่งมีมูลค่าเติบโตสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 6.96 (ร้อยละ 1.18 ในหน่วยของเงินบาท)

ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

เมื่อแยกพิจารณาการส่งออกในรายผลิตภัณฑ์สำคัญพบว่า

สินค้าสำเร็จรูป เครื่องประดับทอง และเครื่องประดับเงิน เติบโตร้อยละ 11.09 และร้อยละ 3.78 ตามลำดับ

สินค้ากึ่งสำเร็จรูป เพชรเจียระไน พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.51,
ร้อยละ 1.66 และร้อยละ 5.15 ตามลำดับ

ตลาด/ภูมิภาคสำคัญในการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.96 เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดหลักเดิมอย่างสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมถึงตลาดสำคัญอื่นอย่างกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน ที่ต่างขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 10.76, ร้อยละ 15.71, ร้อยละ 12.12, ร้อยละ 2.22, ร้อยละ 28.84, ร้อยละ 0.39 และร้อยละ 18.89 ตามลำดับ

มูลค่าการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องมาจากการส่งออกไปยังหลายตลาดสำคัญได้สูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักใน 3 อันดับแรกอย่างเยอรมนี เบลเยียม และสหราชอาณาจักร ที่ต่างมีมูลค่าเติบโตร้อยละ 16.24, ร้อยละ 8.19 และร้อยละ 6.89 ตามลำดับ ซึ่งตลาดเยอรมนีนั้น ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้นตามบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวในทิศทางบวก ส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าหลักอย่างเครื่องประดับเงินไปยังตลาดนี้ได้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนเบลเยียม ไทยส่งออกเพชรเจียระไน ซึ่งเป็นสินค้าหลักได้เพิ่มขึ้น โดยผู้ส่งออกอันดับ 1 คือ บริษัท โรซี่ บลู ไดมอนด์ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม และมีฐานการผลิตอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก สำหรับสินค้าส่งออกหลักไปยังสหราช-อาณาจักรเป็นเครื่องประดับทอง ก็ขยายตัวได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งมาจากความนิยมเครื่องประดับทองสีเหลืองและเครื่องประดับเงินชุบทองสีเหลือง 18 กะรัต โดยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเมแกน มาร์เกิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่สวมใส่เครื่องประดับทองสีเหลืองออกงานต่างๆ  รวมถึงแหวนหมั้นทองสีเหลืองของเจ้าชายแฮรี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์

การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาที่เติบโตได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงทำให้ชาวอเมริกันต้องการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าสำคัญหลายรายการไปยังสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับการคาดการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ที่ได้ประมาณการยอดขายเครื่องประดับในสหรัฐฯ ปี 2561 อยู่ที่ราว 68 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

มูลค่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น เนื่องมาจากการส่งออกไปยังอิสราเอล และกาตาร์ ตลาดสำคัญในอันดับ 2 และ 3 ได้สูงขึ้นถึงร้อยละ 20.61 และกว่า 1.05 เท่า ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกหลักไปยังอิสราเอลเป็นเพชรเจียระไน และสินค้าสำคัญรองลงมาเป็นเพชรก้อน ที่ต่างมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ส่วนกาตาร์ นอกจากเครื่องประดับทอง ซึ่งเป็นสินค้าหลักจะขยายตัวได้สูงมากแล้ว เพชรเจียระไน สินค้าสำคัญรองลงมายังมีแนวโน้มเติบโตดีอีกด้วย ส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลาดในอันดับ 1 หดตัวลงร้อยละ 3.39 ส่วนหนึ่งมาจากผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตได้ไม่ดีนัก อีกทั้งเมื่อต้นปี 2561 รัฐบาลได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 5 และภาษีนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในอัตราร้อยละ 5 อย่างจริงจังจากเดิมที่เคยผ่อนปรนมาโดยตลอด ทั้งนี้ สินค้าสำคัญ

ที่มา: กรมศุลกากร ประมวลผลโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

4 กุมภาพันธ์ 2562

*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ

https://lh4.googleusercontent.com/phROhDNtuyoq44SCn_gOQ48qT5WXTjmOXvZAZxrJPTIWBUoZN2F7qxDEuh9I3KmusBjZYNsYCbr8KB1Dr6-c-lTKr_Yu3ElBnxdU_jGazSZFNiizKxxr5dU9EcydOjjtNx2lMWfS

 

นำเข้าส่งออกอัญมณี, อุตสาหกรรม, อัญมณีและเครื่องประดับ, GIT, สถานการณ์, การส่งออก, Export, ปี 2561, ม.ค.-ธ.ค., สะสม 12 เดือน