
มูลค่าการส่งออกเสื้อผ้า-รองเท้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 24%
ธนาคารแห่งชาติของกัมพูชา (NBC) รายงานว่า การส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าของกัมพูชาในปี 2561 มีมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากปี 2560 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกที่ 8,000 ล้านดอลลาร์ อัตราการเติบโตในปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 7.6 โดยมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศที่นำเข้าเสื้อผ้าและรองเท้าของกัมพูชา เช่น สหภาพยุโรป (EU)
ในปี 2561 สหภาพยุโรปมีการนำเข้าเสื้อผ้าและรองเท้าจากกัมพูชาร้อยละ 46 จากการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าทั้งหมดของกัมพูชา รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 24 แคนาดา ร้อยละ 9 และญี่ปุ่น ร้อยละ 8
Ath Thorn ประธานสมาพันธ์แรงงานกัมพูชา กล่าวว่า เขาไม่เชื่อในตัวเลขการเติบโตที่อ้างโดยธนาคารแห่งชาติ โดยเขาสงสัยว่าตัวเลขดังกล่าวไม่สะท้อนความเป็นจริง
“จำนวนแรงงาน (ในภาคอุตสาหกรรม) ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการทำงานล่วงเวลาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ อีกทั้งมีโรงงานบางแห่งได้ปิดกิจการลง ดังนั้นการส่งออกภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มดังกล่าว น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงนัก ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเติบโตน่าจะมีการขยายตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา”
การส่งออกเครื่องนุ่งห่มปีที่ผ่านมา (ปี 2561) คิดเป็นร้อยละ 74 ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ และมีจำนวนแรงงานประมาณ 800,000 คน
ในปีที่ผ่านมาสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศพิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางการค้า ที่เรียกว่า EBA (everything but arms) กับประเทศกัมพูชา และสหรัฐอเมริกาก็พิจารณาตัดสิทธิการยกเว้นภาษีศุลกากรทั่วไป หรือ GSP เช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชาให้เติบโตเพียงร้อยละ 5-6 ต่อปี จากที่เคยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี ต่อมา นายฮุน เซน ได้ประกาศนโยบายใหม่คือ “National Independence Policy” นโยบายดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแสดงความต้องการที่จะลดการพึ่งพาสองตลาดหลักของกัมพูชา อันได้แก่ “ยุโรปและสหรัฐ” และมุ่งให้ความสำคัญกับการค้าการลงทุนภายในเอเชียมากขึ้น โดยคาดหมายว่าจะช่วยชดเชยผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศได้