‘ลักษณ์ออน’ ปูพรมสร้างแบรนด์ เจาะตลาดถุงเท้าผู้สูงอายุ

กลับหน้าหลัก

สังคมผู้สูงอายุ (Ageing society) กำลังคืบคลานเข้ามาในทุกขณะทุกมุมโลก ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังจะประสบปัญหาดังกล่าวในอีกไม่ช้า  เมื่อประชากรผู้สูงอายุมีมากกว่าประชากรในวัยทำงาน โดยสิ่งหนึ่งที่จะต้องคำนึงเป็นอย่างมาก ก็คือการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยวัยที่ร่วงโรยอาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ และหนึ่งโรคยอดฮิตของผู้สูงอายุก็คือ โรคเบาหวาน
จุดเริ่มต้นไอเดีย

นุชรีย์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบรนฟินิตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นของไอเดียในการทำธุรกิจ ว่า มาจากการที่ตัวเธอได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ของกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneurs Creation : NEC) ซึ่งจะให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ใช้ความคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยที่ตัวเธอเองก็ได้ทดลองคิดออกมาในหลากหลายรูปแบบ แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่ถุงเท้าเพื่อสุขภาพ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการทำอะไรที่เหมือนกับผู้อื่น

สำหรับไอเดียในการทำถุงเท้าเพื่อสุขภาพนั้น ได้มาจากการที่ตัวเธอเองต้องดูแลคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานอยู่ที่โรงพยาบาล โดยที่คุณหมอต้องการให้ทำกายภาพบำบัดด้วยการลุกขึ้นเดินบ้าง ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นการใส่ถุงเท้าเดินอาจจะทำให้ลื่นได้ คุณหมอ จึงให้ถอดออกให้ใส่แค่เฉพาะเวลานอนเพื่อความอบอุ่นของเท้าได้ ตัวเธอจึงคิดว่าหากสามารถใส่ถุงเท้าได้ตลอดทั้งเวลานอนและเดินได้ก็คงจะเป็นการดี แต่ถุงเท้านั้นจะต้องมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมดได้

“ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อวัยวะส่วนเท้าจะเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะเท้าของผู้ป่วยจะไม่รู้สึก โดยจะมีอาการชาจากผลของเส้นเลือดที่ตีบลงเรื่อยๆ และทำให้เท้าขาดความรู้สึก เมื่อเดินไปชนกับอะไรก็ตามจะไม่รู้สึก ซึ่งทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย หากมีถุงเท้าที่จะรองรับได้ในขณะที่เดินอยู่ในบ้าน หรือนอกบ้านก็จะช่วยบรรเทาอาการจากอุบัติเหตุได้ เช่น หากผู้ป่วยเดินไปชนกับสิ่งใดตัวของถุงเท้าก็จะเป็นตัวป้องกันด่านแรกไว้ก่อนในระดับหนึ่ง ทำให้ไม่โดนเท้าโดยตรง”
ใส่ใจทุกองค์ประกอบ

นุชรีย์ กล่าวต่อไปอีกว่า นวัต กรรมที่ถูกนำมาใช้กับถุงเท้าเพื่อสุขภาพมีหลายฟังก์ชัน ประกอบด้วย 1. เส้นใยที่ผลิตจากเส้นใยอะคริลิก (Acrylic Fiber) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยระบายความร้อน และให้ความอบอุ่น 2. ป้องกันแบคทีเรีย (Anti-bacteria) ด้วย ส่วนผสมของเส้นใย Spandex Anti-bacteria โดยสามารถช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นอับได้ เพราะกลิ่นเท้าจะเกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย แม้ว่าผู้ใช้จะซักถุงเท้าไปแล้ว แต่สารดังกล่าวนี้ก็ยังช่วยในการระงับกลิ่นได้อยู่

ทั้งนี้ ยังมีเรื่องของดีไซน์ ในแต่ละส่วนที่จะถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อรองรับการใช้งานเพื่อสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของข้อเท้านั้น ถุงเท้า “ลักษณ์ออน” จะเป็นแบบที่สวมใส่สบาย ไม่รู้สึกบีบรัดข้อเท้า เพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือด (Non-binding cuff) อีกทั้งยังมีการทอแบบตาข่ายด้านบนช่วยระบายอากาศ ทำให้เท้าแห้งสบายไม่อับชื้น (Meshed Knitting Technique) เพื่อให้ไม่มีการหมักหมมของเชื้อโรค เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานเท้าจะมีกลิ่นจากการที่เนื้อเริ่มเปื่อยจากความชื้น ดังนั้น จึงต้องทำให้เท้าแห้งมากขึ้น

ขณะที่ตรงส่วนของพื้นถุงเท้าจะมีพิมพ์ยางพิเศษใต้ฝ่าเท้า (Anti-Slip) เพื่อป้องกันการลื่นไหล ช่วยลดอุบัติเหตุ ด้านตัวพื้นถุงเท้าจะใช้วิธีการทอแบบขนหนู ซึ่งจะไม่เหมือนกับถุงเท้าโดยทั่วไป เพื่อให้มีความหนานุ่มรองรับการกดกระแทก ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้าได้โดยง่าย (Terry Cushion Padding) และยังมีเรื่องของโทนสีซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสีขาว-เทา ทำให้สามารถมองเห็นความผิดปกติได้ง่ายแม้มีบาดแผลเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการถูกตัดเท้าได้ หากรักษาบาดแผลได้เร็ว เรียกว่าทุกองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์มีความใส่ใจในทุกรายละเอียด

“ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีโอกาสที่จะต้องสูญเสียเท้าค่อนข้างสูง โดยจากการที่ทำวิจัยซึ่งเป็นการหาข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกจะระบุเลยว่าในทุก 1 ปีจะมีผู้ที่โดนตัดเท้า 1 ล้านเท้า เพราะโรคเบาหวาน เนื่องจากไม่ได้มีการดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้น แต่หากได้รับการดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้นก็จะช่วยให้โอกาสในการสูญเสียเท้ามีเปอร์เซ็นต์ลดน้อยลง
เล็งต่อยอดจากคนสู่สัตว์เลี้ยง

นุชรีย์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจำหน่ายประกอบไปด้วย ถุงเท้าเพื่อสุขภาพ และถุงดับกลิ่น ซึ่งบริษัทผลิตและจำหน่ายเอง แต่หลังจากที่ไปออกงานแสดงสินค้าจะพบกับกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาก และต้องการให้บริษัทออกผลิตภัณฑ์ถุงเท้าไร้กลิ่น ดังนั้น บริษัทจึงต้องดำเนินการแบบซื้อมาขายไป ผลิตภัณฑ์ถุงเท้าใยไผ่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการดับกลิ่น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว ก่อนที่บริษัทจะผลิตออกมาจำหน่ายเองในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

อย่างไรก็ดี บริษัทยังอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าผ้ากันยุงสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยทำร่วมกับสถาบันสิ่งทอ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในช่วงของการทดสอบว่าได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน โดยนำสารสกัดจากสมุนไพรมาประยุกต์ใช้ เพราะต้องการเน้นความเป็นธรรมชาติ หรือเป็นแบบออร์แกนิกซึ่งจะถูกนำไปเคลือบอยู่บนเส้นใยของผ้าเวลาที่นำไปคลุมที่บนเบาะ หรือบริเวณที่นอน โดยจะมีคุณสมบัติในการป้องกันยุงครอบคลุมบริเวณรอบๆ ซึ่งขณะนี้สัตวแพทย์กำลังทดสอบประสิทธิภาพอยู่ คาดว่าจะออกจำหน่ายได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2562

ด้านช่องทางการจำหน่ายจะมุ่งเน้นการออกบูธตามโรงพยาบาล เพื่อเป็นการให้ความรู้และสร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภคในตัวของผลิตภัณฑ์ และงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ อีกทั้งยังมีช่องทางจำหน่ายออนไลน์ทั้งเพซเฟสบุ๊ก, ไลน์แอด (Line@), เว็บไซต์ของดีทั่วไทยดอทคอม (www.kongdeetourthai.com) และกำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเว็บไซต์ ขณะที่ช่องทางออฟไลน์ล่าสุดมีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านกาแฟ Lanla ชั้นใต้ดินอาคารมาลีนนท์ พร้อมกันนี้บริษัทยังเปิดรับตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุม ส่วนตลาดต่างประเทศจะดำเนินการหลังจากที่การสร้างแบรนด์ในประเทศแข็งแรงแล้ว โดยมองไว้ที่ตลาด CLMV และตะวันออกกลาง แต่คาดว่าจะมีวางจำหน่ายในเว็บไซต์อาลีบาบา (www.Alibaba.com) ก่อน

“บริษัทยังมีแผนที่จะทำธุรกิจร่วมกับโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง เพื่อนำผลิตภัณฑ์ถุงเท้า ลักษณ์ออน ไปใช้กับผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยเป็นการการันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และสร้างการรับรู้ให้มีเพิ่มมากขึ้น”
ยึดผู้บริโภคเป็นสำคัญ

นุชรีย์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายรายได้ของปีนี้อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักของบริษัท เพราะเราต้องการสร้างแบรนด์ และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคก่อน เนื่องจาก ลักษณ์ออน เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้นจึงต้องสร้างการรับรู้ให้กับตลาด แต่หลังจากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน การตลาดเรียบร้อยแล้ว คาดว่ารายได้ในปี 2562จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทได้ ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคต บริษัทต้องการมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเฉพาะแค่อวัยวะส่วนเท้าเท่านั้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 16 June 2018

 

http://www.thansettakij.com/content/288056