จดหมายข่าวอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม_รายไตรมาส 

ฉบับที่ 98 (เดือนเมษายน-มิถุนายน 2568)

ข้อมูลข่าวสารอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในรูปแบบจดหมายข่าวอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Newsletter ประกอบด้วย

1) Business ข้อมูลธุรกิจ

2) Design ออกแบบ

3) Innovation นวัตกรรม เทคโนโลยี

4) Quality มาตรฐานคุณภาพ

5) THTI Activities กิจกรรมสถาบันฯ

Business ข้อมูลธุรกิจ

ข่าว :

ภาษีทรัมป์ จุดเปลี่ยนการค้าโลก ความท้าทาย-โอกาสส่งออกไทย

นางสาวสุภาวดี แย้มกมล อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สพต. ณ กรุงวอชิงตัน เปิดเผยในสัมมนา “ถอดรหัสนโยบายภาษีทรัมป์ โอกาสสู่การค้ายุคใหม่” ภายในหัวข้อเสวนา “สถานการณ์ตลาดสหรัฐอเมริกาภายหลังทรัมป์ประกาศนโยบาย” ว่า ที่ผ่านมา โดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการ ได้มีการประกาศนโยบายการค้าออกมา 4 เรื่องหลัก

ข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลตลาด :

สถานการณ์อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย เดือนมีนาคม 2568

ภาพที่ 1 แสดงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย เดือนมีนาคม 2568

ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ในเดือนมีนาคม 2568 พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 547.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 360.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และ (2) การส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 187.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.01 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าของอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมูลค่า 456.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 แบ่งเป็น (1) การนำเข้ากลุ่มสิ่งทอ มีมูลค่า 278.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 และ (2) การนำเข้ากลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่า 177.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 โดยภาพรวมดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 91.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานการณ์อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าไทย เดือนมีนาคม 2568

ภาพที่ 1 แสดงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าไทย เดือนมีนาคม 2568

ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ในเดือนมีนาคม 2568 พบว่า การส่งออกเครื่องหนังและรองเท้า มีมูลค่า 159.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (%YoY) แบ่งเป็น (1) การส่งออกกลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 112.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.6 และ (2) การส่งออกกลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 46.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าของอุตสาหกรรมในเดือนดังกล่าว มีมูลค่า 189.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 20.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (%YoY) แบ่งเป็น (1) การนำเข้ากลุ่มเครื่องหนัง มีมูลค่า 123.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 39.3 และ (2) การนำเข้ากลุ่มรองเท้า มีมูลค่า 66.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.5 โดยภาพรวมดุลการค้าขาดดุล คิดเป็นมูลค่า 30.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายละเอียดเพิ่มเติม

สถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย เดือนมกราคม-มีนาคม 2568

ภาพที่ 1 ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมทองคำ) ในเดือนมกราคม-มีนาคม ปี 2568

การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยตามพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 71* ในเดือนมกราคม-มีนาคม ปี 2568 ขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 109.88 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 4,114.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่8,635.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นสินค้าส่งออกในอันดับที่ 1 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.59 ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย ทั้งนี้ หากนำมูลค่าดังกล่าวข้างต้น หักออกด้วยการส่งออกทองคำที่ยังมิได้ขึ้นรูป พบว่า การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริงมีมูลค่า 5,086.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 102.38 อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมทองคำ) รายเดือน พบว่า เดือนมีนาคม 2568 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 54.12 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2568

รายละเอียดเพิ่มเติม

Design ออกแบบ

แบรนด์แฟชั่นพรีเมียมที่น่าจับตามองระหว่างปี 2025 ถึง 2029

แม้ว่าแบรนด์แฟชั่นพรีเมียมที่คุ้นเคยอย่าง Lululemon และ Asics จะยังคงได้รับอานิสงส์อย่างต่อเนื่องจากกระแสความนิยมในชุดออกกำลังกายที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน (athleisure) และชุดกีฬาที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีแบรนด์แฟชั่นพรีเมียมหน้าใหม่หลายรายที่น่าจับตาและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า รายงาน GlobalData ที่มีชื่อว่า 'Global Premium Apparel Market to 2029' ได้ระบุแบรนด์แฟชั่นพรีเมียมหลักที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในอีกสี่ปีข้างหน้า รวมถึงแบรนด์ขนาดเล็กบางแบรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

รายละเอียดเพิ่มเติม

Innovation นวัตกรรม เทคโนโลยี

อุตสาหกรรมแฟชั่นมีปัญหาเรื่องภาษี? AI ช่วยคุณได้

ผู้ค้าปลีกแฟชั่นกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านภาษีศุลกากรครั้งใหม่ที่กำลังสั่นคลอนกลยุทธ์ด้านสินค้าคงคลังในทุกระดับ เนื่องจากนโยบายการค้าโลกยังคงเปลี่ยนแปลงไป ต้นทุนเบื้องหลังการตัดสินใจซื้อ ความสัมพันธ์ในการจัดหา และระยะเวลาของห่วงโซ่อุปทานก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย สำหรับหลาย ๆ คน ความกังวลในทันทีคือต้นทุนสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าผู้ค้าปลีกวางแผนและรับมือกับความไม่แน่นอนอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภาษีศุลกากรส่งผลกระทบในทันทีและในระยะยาวต่ออัตรากำไร ระดับสินค้าคงคลัง และการตัดสินใจซื้อ ผู้ค้าปลีกแฟชั่นบางรายกำลังพยายามชะลอการดำเนินการ โดยยกเลิกหรือเลื่อนคำสั่งซื้อในอนาคตเพื่อลดต้นทุนให้เร็วที่สุด แต่การดำเนินการกะทันหันมักส่งผลตามมา โดยเฉพาะในระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทาน การยกเลิกคำสั่งซื้อจำนวนมากเหล่านี้ส่งผลให้กระบวนการผลิตไม่เสถียร และแรงกดดันจะผลักดันไปยังผู้ผลิต การยกเลิกคำสั่งซื้ออย่างแพร่หลายจะทำให้ตลาดล้นไปด้วยสินค้าคงคลังส่วนเกิน ทำให้ผู้ผลิตต้องติดอยู่กับที่ ส่งผลให้การผลิตผลิตภัณฑ์ในอนาคตล่าช้า

รายละเอียดเพิ่มเติม

Quality มาตรฐานคุณภาพ

โครงการ T-REX ของสหภาพยุโรปเผยแผนงานขยายขนาดการรีไซเคิลสิ่งทอ

โครงการ Textile Recycling Excellence (T-REX) ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการดำเนินโครงการริเริ่มดังกล่าว ซึ่งก่อให้เกิดกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสำหรับการปรับปรุงกระบวนการรีไซเคิลสิ่งทอในระดับที่ใหญ่กว่าภายในยุโรป ขยะสิ่งทอสร้างความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในยุโรป โดยมีการผลิตขยะสิ่งทอประมาณ 6.95 ล้านตันต่อปีภายในสหภาพยุโรป ขยะส่วนใหญ่ถูกฝังกลบหรือเผาทำลาย ปัจจุบันมีเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล เพื่อแก้ไขปัญหานี้โครงการ T-REX จึงเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมหน่วยงาน 13 แห่งจากภาคส่วนต่าง ๆ ของห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งแต่ละแห่งตั้งอยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่แตกต่างกันเพื่อร่วมมือกันสร้างแนวทางมาตรฐานสำหรับการรีไซเคิลขยะสิ่งทอในครัวเรือนหลังการบริโภคแบบหมุนเวียน

รายละเอียดเพิ่มเติม

THTI Activities กิจกรรมสถาบันฯ

ครั้งแรกของความร่วมมือ SME D Bank x THTI

SME D Bank ผนึกพลัง THTI สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานรัฐในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่นไลฟ์สไตล์ เครื่องประดับ และเกี่ยวเนื่อง เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี ควบคู่การพัฒนาช่วยยกระดับเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี มาตรฐาน ขับเคลื่อนสร้าง Soft Power แฟชั่นไทยบนเวทีโลกในฐานะสินค้าคุณภาพเยี่ยม ผลิตจากประเทศไทย ในนาม “Made in Thailand” 

รายละเอียดเพิ่มเติม