หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / ไทย-ฮ่องกง ดัน "เกรทเตอร์เบย์" ฐานการค้า-ลงทุน เชื่อมเศรษฐกิจโลก

ไทย-ฮ่องกง ดัน "เกรทเตอร์เบย์" ฐานการค้า-ลงทุน เชื่อมเศรษฐกิจโลก

กลับหน้าหลัก
14.02.2568 | จำนวนผู้เข้าชม 213

“พิชัย” รมว.พาณิชย์ โชว์วิชั่น ไทย-ฮ่องกง จับมือเป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลก พร้อมเดินหน้าผลักดัน FTA กับพันธมิตรทั่วโลกเผยยอดส่งออกไทย-ฮ่องกง ปี 67 โต 5.4%

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Business Luncheon ภายใต้หัวข้อ “Unlocking New Horizons: Hong Kong and Greater Bay Area as a Hub for Global Business and Finance” จัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ร่วมกับสมาคมการค้าไทย-ฮ่องกง โดยมีผู้แทนระดับสูงจากฮ่องกงและจีนเข้าร่วม 

นายพิชัย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างไทยและฮ่องกง โดยเฉพาะบทบาทของ เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยและฮ่องกงสามารถร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการค้า

ขณะเดียวกัน ข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ เช่น ความตกลงเพื่อการเลี่ยงการเก็บภาษีซ้อน และความตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน รวมถึง ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน 

โดยที่สำคัญยังมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมกว่า 30% ของ GDP และประชากรโลก จะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมุ่งส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมสำคัญ และอยากให้ฮ่องกงเข้ามาร่วมมือกับไทยในการพัฒนาศูนย์กลางทางการเงิน 

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี การส่งออกขยายตัว 5.4% และในเดือนธันวาคม 2567 เพียงเดือนเดียว การส่งออกขยายตัวสูงถึง 8.7% และในปี 2567 มูลค่าการส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี 

นอกจากนี้ไทยยังมุ่งผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ โดยล่าสุดได้ลงนาม FTA ไทย-เอฟตา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็น FTA ฉบับแรกระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศยุโรป และจะเร่งเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป (EU) และกับอีกหลายประเทศ เช่น อิสราเอล ภูฏาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ แคนาดา และสหราชอาณาจักร เป็นต้น

นายพิชัย ระบุเพิ่มเติมว่า ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงจีนกับตลาดโลก และเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การเงิน และบริการระดับภูมิภาค ในขณะที่ไทยสามารถเป็นประตูสู่ตลาดอาเซียน สำหรับฮ่องกงและจีนได้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยและฮ่องกงในการแสวงหาโอกาสความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ฮ่องกงถือว่าเป็นคู่ค้าอันดับที่ 12 ของไทย ในปี 2567 มูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 17.04 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24.3% จากปีก่อนหน้า 

ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/trade-agriculture/619554

 

สิ่งทอ, เศรษฐกิจ, ข่าวรายวัน