หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / คณะกรรมาธิการยุโรป โดย นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส (Mr. Virginijus Sinkevicius) ได้ให้การรับรองถึงสนธิสัญญาเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้าของโปรตุเกส

คณะกรรมาธิการยุโรป โดย นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส (Mr. Virginijus Sinkevicius) ได้ให้การรับรองถึงสนธิสัญญาเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้าของโปรตุเกส

กลับหน้าหลัก
04.03.2566 | จำนวนผู้เข้าชม 397

คณะกรรมาธิการยุโรป โดย นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส (Mr. Virginijus Sinkevicius) ได้ให้การรับรองถึงสนธิสัญญาเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้าของโปรตุเกส

ภาพที่ 1 : นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส (Mr. Virginijus Sinkevicius) ในงานพิธีเปิดตัวถึงสนธิสัญญาเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังของประเทศโปรตุเกส ซึ่งสนธิสัญญาฯ ดังกล่าวนับว่ามีความสอดคล้องกับเป้าหมายของสหภาพยุโรปในเรื่องดังกล่าว

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ในงานพิธีเปิดตัวถึงสนธิสัญญาเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้าของโปรตุเกส โดยมีคณะกรรมาธิการยุโรปด้านสิ่งแวดล้อม ทะเล และประมง (The European Commissioner for Environment, Oceans and Fisheries) ได้เข้าร่วมในงานดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำถึง ‘ความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเพื่อให้เข้ากับบริบทโลกในปัจจุบัน’ ซึ่งสนธิสัญญาข้อตกลงดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ผลิตรองเท้า ส่วนประกอบ เครื่องหนังของโปสตุเกส (The Portuguese Footwear, Components, Leather Goods Manufacturers’ Association: APICCAPS) และศูนย์เทคโนโลยีรองเท้าของโปรตุเกส (The Portuguese Footwear Technological Centre: CTCP) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้าในโปรตุเกสมีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดโดย องค์การสหประชาชาติและยุโรป ถึงการบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ.2593 และลดการปล่อยคาร์บอนลงครึ่งหนึ่ง ในปี พ.ศ.2573

“อุตสาหกรรมรองเท้านับเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมจากทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่กระบวนการผลิตและวัสดุที่ใช้ ไปจนถึงผลกระทบต่อนำ้ การใช้ดิน และมลพิษ อีกทั้งเมื่อรองเท้าหมดอายุการใช้งานยังกลายเป็นของเสียที่สูญเปล่า ดังนั้น จึงนับเป็นเรื่องดีที่สนธิสัญญาฯ ดังกล่าวได้ระบุถึงความพยายามใช้แนวทางที่มีความแตกต่างออกไป และมีความสอดคล้อง ครอบคลุม และสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของสหภาพยุโรป ต่อประเด็นเพื่อจัดการทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงมีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด”

ซึ่งคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและให้ความสำคัญต่อมุมมองของกลุ่มผู้บริโภคเป็นสำคัญ ทั้งยังมีความพยายามที่จะดำเนินการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์และข้อมูลเพื่อการตัดสินใจและความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยในการส่งเสริมต่อประเด็นด้านความโปร่งใส (Transparency) ต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส ยังกล่าวยกย่องถึงความพยายามของผู้ลงนามในข้อตกลง Shoes Green ที่จะทำงานเพื่อสร้างความยั่งยืนและเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และเขายังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการ BioShoes4All ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนทางชีวภาพ 

ทั้งนี้ นายเวอร์กินิจุส ซิงเควิชุส ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม โดยระบุว่า “การเปลี่ยนผ่านนับเป็นเรื่องยากยิ่ง ซึ่งพวกเราต่างตระะหนักถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ ซึ่งคณะกรรมาธิการต่างเร่งพยายามดำเนินการให้เรื่องดังกล่าวมีวิธีการเปลี่ยนผ่านที่ง่ายขึ้น โดยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่พร้อมให้การสนับสนุนโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นกองทุนของยุโรปอย่าง Next Generation EU ถูกนำไปดำเนินการจริงผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น BioShoes4All เพื่อให้เงินทุนเป็นตัวกระตุ้นและสร้างต้นแบบให้กับผู้ผลิตรายอื่นที่สนใจ ซึ่งนับเป็นแนวทางในการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน”

หมายเหตุ : 

กลุ่มคลัสเตอร์รองเท้าและเครื่องหนังของโปรตุเกส ประกอบด้วยบริษัทมากกว่า 1,900 แห่ง และรองรับจำนวนแรงงานกว่า 40,000 ตำแหน่ง โดยภาพรวมภาคการผลิตในประเทศ คิดเป็นร้อยละกว่า 95 เพื่อการส่งออกไปกว่า 172 ประเทศ ใน 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 2,300 ล้านยูโรต่อปี 

----------------------------------------

ที่มา : World Footwear

Image Credits: apiccaps.pt and https://www.worldfootwear.com/news/eu-commissioner-virginijus-sinkevicius-applauds-the-portuguese-shoes-green-pact-initiative/8598.html 

กฎระเบียบเครื่องหนัง, อุตสาหกรรม, เครื่องหนังรองเท้า, โปสตุเกส, APICCAPS, CTCP, Transparency, BioShoes4All, THTI, Fashion Intelligence Unit, FIU, FIU_'66