หน้าแรก / THTI Insight / ข่าวรายวัน / โควิดดันอีคอมเมิร์ซโตไม่หยุด “โพเมโล” ทุ่มพันล้านเร่งโตรอบทิศ

โควิดดันอีคอมเมิร์ซโตไม่หยุด “โพเมโล” ทุ่มพันล้านเร่งโตรอบทิศ

กลับหน้าหลัก
30.03.2565 | จำนวนผู้เข้าชม 416

โควิดดันอีคอมเมิร์ซโตไม่หยุด “โพเมโล” ทุ่มพันล้านเร่งโตรอบทิศ

“โพเมโล” โดดรับโอกาสอีคอมเมิร์ซอาเซียนโตต่อเนื่อง เตรียมลงทุนเพิ่มอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เพิ่มดีกรีขยายตลาด “จีน-ฟิลิปปินส์” ขยายหน้าร้าน 30 แห่ง พร้อมเพิ่มจำนวนแบรนด์สินค้าจาก 500 เป็น 2,000 แบรนด์ในสิ้นปีนี้


นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการ บริษัท โพเมโล แฟชั่น จำกัด แพลตฟอร์มแฟชั่นออมนิแชนเนล กล่าวว่า โควิด-19 เป็นตัวเร่งสำคัญทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซโตก้าวกระโดด พร้อมเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยจากข้อมูลของกูเกิล เทมาเส็ก และเบน แอนด์ คอมพานี ระบุว่า ปี 2573 เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยหมวดแฟชั่น ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับจะเติบโตกว่า 3.1 เท่า และด้วยแนวโน้มที่เกิดขึ้น เป็นโอกาสในการเติบโตของแพลตฟอร์มแฟชั่นอย่าง “โพเมโล” (Pomelo) ปัจจุบันเปิดให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน


“เป้าหมายต่อไปคือเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นจุดหมายเรื่องแฟชั่นอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนแผนการระดมทุนหรือการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษา ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่ปัจจุบันโพเมโลเป็นแฟชั่นเทคระดับ Series C”


ด้านนายเดวิค โจว ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โพเมโล แฟชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้และปี 2566 มีแผนลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งการทำตลาด การพัฒนาคอนเทนต์ และเพิ่มจำนวนแบรนด์


โดยจะเพิ่มจาก 500 แบรนด์ เป็น 2,000 แบรนด์ ในกลุ่มสินค้าด้านแฟชั่น ความงาม ที่หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เป็นต้น และเตรียมขยายหน้าร้านเพิ่มอีก 30 สาขา โดยในสิ้นปีจะมี 54 แห่ง ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปัจจุบันมี 27 สาขา


แบ่งเป็นไทย 22 สาขา อีก 5 สาขา กระจายอยู่ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แผนการขยายตลาดในปีนี้ยังโฟกัส 6 ประเทศหลัก แต่ให้น้ำหนักกับการรุกตลาดใน 2 ประเทศ คือฟิลิปปินส์และจีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี


ปีที่ผ่านมารายได้หลักของบริษัทมาจากช่องทางอีคอมเมิร์ซ 51% บริการ Tap.Try.Buy.at home (บริการที่พัฒนาขึ้นเพิ่มเติมในช่วงโควิดที่ผ่านมา เนื่องจากคนไม่ออกจากบ้าน) 24% และหน้าร้าน 25%


โดยตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้จะผลักดันให้ทุกช่องทางเติบโตขึ้น และคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้มูลค่าสินค้าโดยรวมที่ขายในระบบอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (gross merchandise value) เติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า


ที่มา : https://www.prachachat.net/ict/news-895438

ข่าวรายวัน,สิ่งทอ,อีคอมเมิร์ซ,โพเมโล,แพลตฟอร์ม,แฟชั่น,ออมนิแชนเนล,เสื้อผ้า,เครื่องสำอาง,รองเท้า,กระเป๋า,เครื่องประดับ