
อุตสาหกรรมแฟชั่นจะเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนภายในปี 2573
รายงานของ McKinsey & Company ระบุว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นจะเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนกว่าร้อยละ 80 ภายในปี 2573 หากมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในเรื่องของเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้านการรีไซเคิล การรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สิ่งทอสร้างโอกาสในการพัฒนารวมถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในห่วงโซ่คุณค่าแฟชั่น ในขณะเดียวกันก็สร้างงานและมูลค่าให้แก่นักลงทุน
ความร่วมมือกับคู่แข่งในลักษณะ Pre-competitive collaborations มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จากกรณีศึกษาการรีไซเคิลสิ่งทอที่ระบุในงานวิจัย Scaling Circularity ที่เผยให้เห็นโอกาสและการลงทุนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบแฟชั่นเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนภายหลังการประชุม COP26 งานวิจัยดังกล่าวจัดทำโดย Global Fashion Agenda (GFA) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรด้านความร่วมมือในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยั่งยืน ร่วมมือกับ McKinsey & Company
การค้นพบนี้มาจากการวิเคราะห์และการศึกษาโครงการ The Circular Fashion Partnership ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สิ่งทอในบังคลาเทศ ซึ่งบังคลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
งานวิจัยดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การรีไซเคิลสิ่งทอและอธิบายถึงผลลัพธ์จากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรีไซเคิลที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม อาทิ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การขาดแคลนน้ำ และการใช้ที่ดิน นอกจากนี้การนำเทคโนโลยีมาใช้ยังมีศักยภาพในการลดต้นทุนมากกว่าการใช้วัสดุใหม่
ในปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สิ่งทอเข้าสู่ระบบได้มากถึงร้อยละ 75 และอีกร้อยละ 5 มาจากการรีไซเคิลวัตถุดิบจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อนำเกิดสถานการณ์ดังกล่าว อุตสาหกรรมแฟชั่นจำเป็นต้องมีการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีรีไซเคิลเพิ่มอย่างน้อย 5-7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2569 รวมถึงการระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
Federica Marchionni ซีอีโอของ Global Fashion Agenda กล่าวว่า งานวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการรีไซเคิล และยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านบวกที่ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความท้าทายที่สำคัญ คือ เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลง การจัดหาทุนที่เพียงพอ นโยบายที่สนับสนุน และความร่วมมือกับคู่แข่งในลักษณะ Pre-competitive collaborations
ในงานวิจัยมีกรณีศึกษาที่แสดงถึงความต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้น หากปริมาณความต้องการวัสดุรีไซเคิลเพิ่มขึ้น รวมถึงการจัดหาการจัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เพิ่มขึ้น จะดึงดูดให้ผู้ที่มีส่วนในวงจรมูลค่าแฟชั่นทำการพัฒนากระบวนการการติดตามขยะแฟชั่น ความร่วมมือกับคู่แข่งในลักษณะ Pre-competitive collaborations จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ อุปทาน และดึงดูดการลงทุนเชิงพาณิชย์
Karl-Hendrik Magnus senior partner and the leader of the apparel, fashion and luxury group, McKinsey & Company กล่าวว่า การรีไซเคิลสิ่งทอต้องมีการเร่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยอุตสาหกรรมแฟชั่นในการลดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส งานวิจัยนี้เน้นย้ำถึงโอกาสในการรีไซเคิลสิ่งทอในขยะสิ่งทอที่ถูกมองข้ามไป และเน้นย้ำความมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมที่ทำงานเพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โครงการ The Circular Fashion Partnership แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือกับคู่แข่งในลักษณะ Pre-competitive collaborations มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนแปลง
ที่มา : Fibre2Fashion: “Fashion likely to become 80% circular by 2030: McKinsey”, by Fibre2Fashion News Desk (RR), November 26, 2021