ปริมาณการค้าเส้นด้ายทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

กลับหน้าหลัก

ปริมาณการค้าเส้นด้ายทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

ในช่วงครึ่งแรกของปีปริมาณการค้าเส้นด้ายทั่วโลกเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมาและมาตรการรับมือวิกฤติต่าง ๆ ในหลายประเทศรวมถึงองค์กรการค้าต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการค้าเริ่มลดลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2564 เนื่องจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า (Delta) ที่มีการกระจายไปในหลายประเทศ

ผลกระทบของการแพร่ระบาดเริ่มลดลงในช่วงปลายปี 2563 ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์เส้นด้ายส่งผลให้มูลค่าการค้าเติบโตอย่างมาก นอกจากนี้ความต้องการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากหยุดชะงักไปเกือบหนึ่งปี

ปริมาณการค้าเส้นด้ายได้รับผลกระทบอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2564 เนื่องจากซัพพลายเออร์และผู้บริโภคเส้นด้ายรายใหญ่ เช่น จีน ออสเตรเลีย บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศทางตะวันออกอื่น ๆ ได้คืนสถานะการกีดกันทางการค้าอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า

ในปี 2562 มูลค่าการค้าเส้นด้ายทั่วโลกเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 2.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ปี 2563 มูลค่าการค้ายังคงเท่ากับปีก่อนหน้าถึงแม้ว่าโลกจะเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 และในปี 2564 มูลค่าการค้าเส้นด้ายเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี โดยมีมูลค่าการค้าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 3.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 27 อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าเส้นด้ายทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะลดลงร้อยละ 17.50 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยมีมูลค่าการค้าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 3.09 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ประเทศผู้ส่งออกเส้นด้ายที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน อินเดีย เวียดนาม อิตาลี และอินโดนีเซีย โดยมีส่วนแบ่งการส่งออกร้อยละ 25.49, 10.47, 10.35, 4.48 และ 4.19 ตามลำดับ

ที่มา : Fibre2Fashion: “Global yarn trade to take a dip in second half of 2021: TexPro”, by Fibre2Fashion News Desk (KD), August 28, 2021

เรียบเรียงโดย : อิสเรศ วงศ์เสถียรโสภณ (ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)