เทคโนโลยีดิจิทัลกับการลดต้นทุนและของเสียในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

กลับหน้าหลัก

เทคโนโลยีดิจิทัลกับการลดต้นทุนและของเสียในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยที่เร่งให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการลดต้นทุนและของเสียจากโรงงาน 

รายงาน Digital Transformation in the Apparel Industry: How to Improve Efficiency in Apparel Factory Supply Chain ที่จัดทำโดย บริษัท วาย ซี พี โซลิเดียนซ์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการเงิน ร่วมกับ Brother Machinery Asia (BMA) ให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่ผ่านมาร้านเสื้อผ้าหลายแห่งต้องทำการปิดร้านลงชั่วคราวตามประกาศหรือคำสั่งล็อกดาวน์ของภาครัฐในหลายประเทศ นั่นหมายความว่าโรงงานหลายแห่งจำเป็นต้องหยุดการทำงานบางส่วนหรือหยุดกิจการชั่วคราวด้วยเนื่องจากมีคำสั่งซื้อลดลง ดังนั้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มต้องลดกำลังการผลิตลงกว่า 70% ขณะที่ชั่วโมงการทำงานของจักรเย็บผ้าใน 4 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ลดลงเหลือ 27% ในเดือนเมษายน 2563 ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์

โรงงานหลายแห่งใช้เวลาในช่วงที่ต้องหยุดการทำงานเพื่อสำรวจการใช้กระบวนการดิจิทัล รายงานระบุว่า ประโยชน์จากการนำดิจิทัลมาใช้ในโรงงาน คือ โรงงานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงจะมีความยืดหยุ่นต่อการปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อได้ดีกว่า ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และคำสั่งซื้อใหม่ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้การจัดสรรทรัพยากรที่ดีจะช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และปริมาณคำสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่ไม่จําเป็นได้

นาย Satoshi Kuriga หุ้นส่วนของบริษัท วาย ซี พี โซลิเดียนซ์ จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้แบรนด์และผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรม เนื่องจากโรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลงในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายพร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตให้ดีขึ้นในระยะยาว

การดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องยากและค่าแรงในตลาดแรงงานเอเชียเริ่มไม่ได้ถูกอย่างที่คิด ดังนั้นแบรนด์เครื่องนุ่งห่มต่าง ๆ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้เพื่อลดต้นทุนในระยะยาว นอกจากนี้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และการใช้เทคโนโลยี IoT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณการผลิตเครื่องนุ่งห่มได้มากถึง 5% รวมถึงลดระยะเวลาและต้นทุนการผลิตได้มากกว่า 88%

นาย Gen Kimura ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Brother Machinery Asia อธิบายว่า การยกระดับเทคโนโลยีของผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มเริ่มต้นจากนำเอาระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาพัฒนาระบบการผลิตให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น ผสมผสานเข้ากับความรู้ด้าน IoT (Internet of Things) เพื่อเพิ่มการใช้ข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มก้าวเดินไปข้างหน้า

รายงานดังกล่าวแนะนำให้ผู้ผลิตพิจารณาการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเด็นต่อไปนี้
• Understand the needs : ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและเข้าใจว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

• Make initiative prioritisation : ประเมินความต้องการ พิจารณาความเร่งด่วน และการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา พร้อมระบุแนวทางการแก้ไขปัญหา
• Implementing IoT and data visualisation : การนำซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ไปใช้จะต้องมีการนำข้อมูลดิบมาเปลี่ยนเป็นกราฟ แผนภูมิ หรือแม้กระทั่งวิดีโอที่ช่วยอธิบายปริมาณ ตัวเลข เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการวิเคราะห์
• Data analysis and action : ช่วยให้ผู้ผลิตเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุง

ที่มา : 

1. Just-style: “Digitilisation key to cutting costs, waste in apparel”, by Hannah Abdulla, January 5, 2021

2. YCP Solidiance: “Digital Transformation in the Apparel Industry: How to Improve Efficiency in Apparel Factory Supply Chain”, December, 2020

เรียบเรียงโดย : อิสเรศ วงศ์เสถียรโสภณ (ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)