หากใครได้ชมคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายของ TAKTAI (ทักทาย) เชื่อว่าหลายคนจะต้องชื่นชอบความเรียบหรู ดูเก๋ และทันสมัยของแบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติไทยแบรนด์นี้ แต่สิ่งที่จะทำให้ทุกคนทึ่งมากขึ้นไปอีก คือที่มาที่ไม่ธรรมดาของเส้นใยจากธรรมชาติแท้ ๆ ซึ่ง คุณซิ่วซิ่ว-กัญจิรา ส่งไพศาล นำผลงานวิจัยเรื่องเส้นใยธรรมชาติมาต่อยอดจนกลายเป็นเสื้อผ้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่มีใครเหมือน
 

แรงบันดาลใจจากงานวิจัย
          จากโปรแกรมเมอร์สาวที่เคยทำงานออฟฟิศ และคิดอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง คุณซิ่วซิ่วได้ใช้เวลาส่วนตัวในการศึกษาธุรกิจที่น่าสนใจหลายอย่าง กระทั่งได้มีโอกาสเข้าไปเยือน ‘สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ’ เธอจึงได้ทำความรู้จักกับเรื่องราวของเส้นใยธรรมชาติ และเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ

           “ในเมืองไทยมีงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นใยธรรมชาติเยอะมาก ซึ่งเรามองว่าน่าจะต่อยอดเป็นแบรนด์เสื้อผ้าได้ จึงไปขอความรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งในสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เมื่อได้ข้อมูลต่าง ๆ มาแล้ว เราต้องใช้เวลาในการศึกษาและพัฒนาอยู่นานเกือบ 2 ปี ดูแลตั้งแต่กระบวนการผลิตเส้นใยจากพืชจนกระทั่งกลายเป็นเสื้อผ้า โดยใช้เส้นใยไผ่เป็นตัวหลัก นอกจากนั้น เราก็ยังใช้เส้นใยกล้วย สัปปะรด กัญชง แต่ที่กำลังสนใจในตอนนี้คือเส้นใยผักตบชวา” คุณซิ่วซิ่วเล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจเสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติ

 

กว่าจะมาเป็น TAKTAI
            คุณซิ่วซิ่วไม่ได้จบการศึกษาจากสายสิ่งทอหรือแฟชั่นโดยตรง แต่เพราะใจรักทำให้ตลอดหลายปี เธอได้ทุ่มเทเวลาให้แก่การเรียนรู้งานแฟชั่นดีไซน์อย่างมาก ควบคู่ไปกับการพัฒนาเส้นใยธรรมชาติให้มีคุณภาพมากขึ้น เพราะกว่าจะมาเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ TAKTAI นั้นไม่ง่ายเลย

            “พอคิดจะทำเส้นใยธรรมชาติเป็นธุรกิจจริงจัง เราก็เริ่มตั้งแต่ออกไปหาแหล่งปลูกไผ่ แล้วรับซื้อลำไผ่จากไร่ส่งเข้าโรงงานไประเบิดเป็นเส้นใย เมื่อได้เส้นใยมาแล้วก็ต้องเอามาปั่นเป็นเส้นด้าย ซึ่งต้องใช้เวลาในการเฟ้นหาโรงงานที่เขายินดีทำตามความต้องการและออร์เดอร์ของเรา เนื่องจากเส้นด้ายของเราจะใช้เส้นใยธรรมชาติจากไผ่ผสมกับเส้นใยฝ้ายออร์แกนิก ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก และช่วงเริ่มต้นผลิตเส้นด้ายก็ค่อนข้างเสี่ยงว่าเส้นด้ายจะออกมาสวยไหม ก็ใช้ว่าทดลองอยู่นานเป็นปีกว่าจะได้เส้นด้ายที่นำไปทอได้สวยตรงใจเรา”

            เมื่อปั่นเส้นด้ายออกมาเป็นม้วนได้สำเร็จแล้ว ก็ต่อด้วยกระบวนการถักทอให้เป็นผืนผ้า คุณซิ่วซิ่วคิดต่อยอดไปอีกว่า อยากสร้างสรรค์ผืนผ้าเส้นใยธรรมชาติที่มาจากงานทอมือ 100% เธอจึงออกตามหาชุมชนที่ยังคงสืบทอดภูมิปัญญาในการทอผ้าเอาไว้ จนได้พบกับชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งกลายมาเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญที่อยู่เบื้องหลังความงดงามของเสื้อผ้าแบรนด์ TAKTAI

            “ทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ผ้าทอมือของคนไทยเป็นศิลปะการทอผ้าที่สวยและประณีต เราเลยอยากจับความเป็นธรรมชาติของเส้นใยของเรามาผนวกกับงานทอมือของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านด้วย อย่างชุมชนที่เราทำงานด้วย ก่อนหน้านี้พวกเขาเลิกทอผ้ากันไปแล้ว เพราะรายได้น้อย แต่ตอนนี้ก็กลับมาทอผ้ากับเราอีกครั้ง และงานทอที่พวกเขาทำก็ประณีตมาก ๆ บางคนดูเนื้อผ้าแล้วมักคิดว่าเป็นงานโรงงาน นั่นเพราะชาวบ้านทอได้เนียนจริง ๆ ประกอบกับจุดเด่นของเส้นใยไผ่ที่มีสีเหลือบทอง ดำ และน้ำตาล เมื่อทอออกมาเป็นผืนจึงเกิดลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครด้วย” คุณซิ่วซิ่วบอกด้วยความภาคภูมิใจ
 

   

ส่งต่อคุณค่า...สานต่อภูมิปัญญาพื้นบ้าน
            ปัจจุบัน แบรนด์ TAKTAI ไม่ได้หยุดอยู่แค่เสื้อผ้า แต่ยังเป็นแหล่งรวมของ Fashion Accessories ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ กระเป๋า หมวก รองเท้า และเครื่องประดับ ที่ใช้ผ้าทอมือเป็นวัตถุสำคัญในการตัดเย็บทั้งหมด และหลังจากวางตลาดได้เพียงหนึ่งปี TAKTAI ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากดีไซน์ที่ดูเรียบเก๋อย่างมีสไตล์ คุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์จากต่างประเทศ รวมถึงคุณสมบัติพิเศษของเส้นใยไผ่ ที่ช่วยป้องกันรังสียูวี เชื้อแบคทีเรีย และสามารถปรับอุณหภูมิให้สวมใส่สบายได้ตามสภาพอากาศ

            “ไผ่เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว และช่วยสร้างออกซิเจนได้มาก เรามองการณ์ไกลว่า อยากส่งเสริมให้เกิดการปลูกไผ่มาก ๆ เพราะนอกจากเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ส่วนหนึ่งเราก็จะมีวัตถุดิบสำหรับทำเสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติด้วย

            “ส่วนด้านการทอผ้า เรากำลังวางแผนพัฒนาธุรกิจให้เป็นรูปแบบของ Social Enterprise เพราะเราอยากเข้าไปส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน ร่วมกันสร้างแบรนด์สินค้าทอมือจริง ๆ และถือเป็นการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าแบบพื้นบ้านให้คงอยู่ต่อไป ไอเดียที่เราตั้งใจจะทำตอนนี้ คือการจัดตั้งกองทุนสำหรับพัฒนาชาวบ้านที่ทอผ้าให้เรา ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้เวลาศึกษาและวางแผน แม้ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจว่าต้องเดินหน้าต่อไปในรูปแบบไหนถึงดีที่สุด แต่เราก็ตั้งใจว่าจะทำให้สำเร็จให้ได้”

คุณซิ่วซิ่วทิ้งท้ายถึงความตั้งใจในการพัฒนาแบรนด์ของเธอ ซึ่งพร้อมจะแบ่งปันความสำเร็จไปสู่ชาวบ้านและชุมชนที่มีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์ TAKTAI ด้วยกัน