
นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ได้มอบหมายให้นางดาริกา ดาวจันอัด นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ และนางสาววนิดา เล่าสกุลชัย เจ้าพนักงานการเกษตรปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 เข้าติดตามเก็บข้อมูลแปลงขยายผลของปีงบประมาณ 2560
ในกิจกรรมการพัฒนาการผลิตดาหลาและแปรรูปสิ่งทอจากเส้นใยดาหลา ภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันก่อน
ทั้งนี้จากแนวคิดที่ต้องการแก้ปัญหาการตัดและเผาต้นดาหลา ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นภาคใต้ ภายหลังจากเกษตรกรเก็บดอกและต้นอ่อนจำหน่ายเพื่อการบริโภคแล้ว จึงเป็นที่มาของการวิจัยและพัฒนาการสกัดเส้นใยจากดาหลาของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส
สำหรับการนำดาหลามาผลิตเป็นเส้นใยนั้นจะเลือกใช้ส่วนของลำต้นซึ่งให้เส้นใยที่มีน้ำหนัก โดยลำต้น 10 กิโลกรัมจะให้เส้นใยแห้ง 1 กิโลกรัม ส่วนใบ 10 กิโลกรัมจะให้เส้นใยแห้ง 0.5 กิโลกรัม ซึ่งเส้นใยดาหลาเป็นเส้นใยที่มีอนาคตทางธุรกิจของไทย ด้วยสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า หมวก กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ ขึ้นอยู่กับการทำเส้นใยให้ตรงกับความต้องการของการผลิตสินค้านั้น ๆ ที่สำคัญเป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ซึ่งมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือ เสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ได้ทำการศึกษาการผลิตเส้นใยจากดาหลาในระหว่างปี พ.ศ. 2554-2558 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ การสำรวจข้อมูลพืชที่มีศักยภาพในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส การพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปดาหลาด้วยการสกัดเส้นใยเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทอผ้า และการขยายผลงานวิจัยเทคโนโลยีการผลิตเส้นใยดาหลาสู่เกษตรกร
ซึ่งผลการทดลองพบว่า ดาหลาเป็นพืชที่มีศักยภาพสำหรับการเพิ่มมูลค่าและมีความเหมาะสมที่จะส่งเสริมแก่เกษตรกรในจังหวัดนราธิวาส โดยใช้ส่วนของลำต้นดาหลา ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการผลิตเส้นใยธรรมชาติเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมทอผ้า
สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเส้นใยดาหลาพบว่า การใช้ส่วนของลำต้นดาหลามาแช่ในสารสกัดเส้นใยเป็นระยะเวลา 6 วัน เป็นวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากจะได้เส้นใยที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับความต้องการของการผลิตผ้า จากเส้นใยธรรมชาติ และการใช้เส้นใยจากส่วนแกนในของลำต้นดาหลาเป็นวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากมีลักษณะของเส้นใยที่อ่อนนุ่มตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการด้านสิ่งทอ
จากนั้นได้นำเทคโนโลยีการผลิตเส้นใยดาหลาที่ได้จากการวิจัยไปขยายผลสู่เกษตรกรในรูปแบบของการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยเกษตรกรต้นแบบที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วได้รวมกลุ่มกันและจัดตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกดาหลาเพื่อตัดต้นจำหน่าย และกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเส้นใยดาหลา เพื่อจำหน่ายเส้นใยให้กับผู้ประกอบการ
ปัจจุบันผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทอผ้าได้นำเส้นใยดาหลาไปใช้ในการผลิตผ้าทอจากเส้นใยธรรมชาติที่มีส่วนผสมของเส้นใยดาหลาเพิ่มมากขึ้น ด้วยตรงตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่กำลังรณรงค์และให้การยอมรับเส้นใยจากธรรมชาติมากกว่าเส้นใยจากขนสัตว์ภายใต้กระแสการอนุรักษ์สัตว์
จึงนับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยและเกษตรกรไทยในการผลิตดาหลา เพื่อการผลิตเส้นใยสำหรับทอผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญ เป็นการช่วยสร้างเอก ลักษณ์ของผลิตภัณฑ์สิ่งทอของประเทศไทยที่มาจากพืชพื้นเมืองของไทยอีกด้วย
ทั้งนี้จากแนวคิดที่ต้องการแก้ปัญหาการตัดและเผาต้นดาหลา ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นภาคใต้ ภายหลังจากเกษตรกรเก็บดอกและต้นอ่อนจำหน่ายเพื่อการบริโภคแล้ว จึงเป็นที่มาของการวิจัยและพัฒนาการสกัดเส้นใยจากดาหลาของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส ทั้งนี้จากแนวคิดที่ต้องการแก้ปัญหาการตัดและเผาต้นดาหลา ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นภาคใต้ ภายหลังจากเกษตรกรเก็บดอกและต้นอ่อนจำหน่ายเพื่อการบริโภคแล้ว จึงเป็นที่มาของการวิจัยและพัฒนาการสกัดเส้นใยจากดาหลาของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส