
ซิลลูเอท (Sil -hou-ette)
คือโครงของเสื้อผ้า หรือภาพร่าง/เส้นกรอบที่ไม่มีรายละเอียดข้างใน แรงบันดาลใจหรือที่มาในการออกแบบโครงเสื้อผ้า อาจมีการเลียนแบบหรือต่อยอดมาจากแนวคิดที่หลากหลาย การทำความเข้าใจที่มาของโครงร่างจะให้สามารถทราบถึงองค์ประกอบที่สามารถนำมาใช้ร่วมกันในการออกแบบทั้งลักษณะ เส้นสาย แพทเทิร์น การตัดต่อ การตกแต่งใช้วัสดุประกอบ การใช้สี
ตัวอย่างที่มาของโครงเสื้อจัดกลุ่มได้คร่าวๆ ดังนี้
Letter ตัวอักษร รูปทรงที่เลียนแบบตัวอักษรซึ่งถูกนำมาใช้เป็นชื่อเรียกสไตล์ต่างๆ เช่น
A-line shape ทรงตัวเอ ลักษณะเสื้อผ้าที่ด้านล่างใหญ่กว่าด้านบน มีรูปทรงคล้ายอักษร A มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในสมัยพระนางอลิซาเบธ หลังจากนั้นกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในยุคหลังสงครามโลกและ Dior ได้นำกลับมาให้เป็นที่นิยมอีกครั้ง
H-line shape โครงสร้างเสื้อทรงตัวอักษร H เป็นชุดเดรสทรงตรง มีเข็มขัดหรือเดินเส้นตะเข็บที่ส่วนเอว โดยนักออกแบบชาวปารีส Christian Dior ในค.ศ.1957
H-line
- V-line / V-shape รูปแบบเสื้อไหล่กว้าง ค่อย ๆ เรียวลงไปยังกระโปรง บางครั้งเย็บไหล่และแขนเสื้อกว้าง [หรือปีกค้างคาว] เป็นชิ้นเดียวกับเสื้อ อาจทำช่องแขนใหญ่ แขนกว้าง และเสริมไหล่ เพื่อทำให้ส่วนบนของเสื้อดูกว้าง เริ่มใช้ในค.ศ.1983
- Y-line เส้นสายเสื้อผ้า แสดงสัดส่วนเพรียวของร่างกาย ช่วงบนกว้าง ปกเสื้อใหญ่เป็นทรง V อาจใช้กับเสื้อ tunic ยาว ผ่าข้าง ปรากฏในคอลเลคชั่นของ Dior ในค.ศ.1955
Geometric shape รูปทรงเรขาคณิต เช่น
- Balloon เครื่องแต่งกายที่เป็นทรงกลม พองๆแบบบอลลูน หรือเรียก Bubble
Bell shape เครื่องแต่งกายหรือสิ่งของรูปทรงคล้ายระฆัง ในยุค 1830 รูปร่างที่เป็นที่นิยมจะเน้นที่เส้นเอวธรรมชาติและกระโปรงลงมาเป็นทรงระฆังเปิดกว้าง เผยให้เห็นข้อเท้านิดหน่อย
เครดิตภาพ : http://www.metmuseum.org/toah/hd/19sil/hd_19sil.htm
Historic periods ยุคสมัยต่างๆ เช่น
Empire line ทรงตัวยาวมีการตัดต่อเนวเส้นเอวที่ใต้อก เริ่มนิยมมาตั้งแต่ต้นยุค 1800 หรือ Empire dress ชุดกระโปรงที่มีส่วนเอวของชุดสูงคืออยู่ใต้อก ส่วนเอวนั้นถูกเสริมชิ้นผ้าหรือตะเข็บ เป็นแบบที่ได้รับอิทธิพลจากชุดกระโปรงที่เป็นที่นิยมในสมัย directoire และ empire ของประเทศฝรั่งเศส ลักษณะอื่นๆหมายรวมถึงคอเสื้อที่ลึกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แขนเสื้อบานออกเล็กน้อย กระโปรงตรงยาวถึงข้อเท้า สำหรับเสื้อผ้าที่สวมใส่ในศาลนั้นโดยปกติแล้วชายกระโปรงจะห้อยตัวลงจากบ่า
เครดิตภาพ : http://www.metmuseum.org/toah/hd/empr/hd_empr.htm
Gothic Style ยุคกอธิคหรือยุคมืดในช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงกลางศตวรรษที่ 15 ในยุโรปตะวันตก มีเส้นสายที่ดูโดดเด่น สูงตระหง่านเน้นความอลังการแบบสไตล์กอธิค (ศิลปะหลังยุคเรอเนสซองค์) เน้นการใช้สีดำ เคร่งขึม ดูน่ากลัวน่าเกรงขาม การใช้แสงเงาประกอบ รวมถึงพวกงานโลหะ เมทัลเป็นส่วนประกอบ ใช้การตกแต่งรายละเอียดตามแนวเส้นโค้งและใช้ศิลปะแบบยุคกลางร่วมด้วย
People name ตามแบบบุคลิก รสนิยม สไตล์การแต่งตัวของบุคคลที่เป็นที่อ้างอิง อาทิ ดารา นักร้อง นักกีฬา นักออกแบบ
Audrey Hepburn นักแสดงฮอลลีวูดที่โด่งดังในช่วงยุค 50-60 มีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นโดย GIvenchy เป็นผู้ออกแบบให้จนเป็นที่นิยมในนาม “Hubert de Givenchy” ในรูปแบบชุดที่เรียกว่า Little Black Dress
McQueen หรือรู้จักกันในนาม Alexander McQueen: Savage Beauty (2010) นักออกแบบที่มีชื่อเสียงและมีสไตล์เฉพาะตัวในการใช้เสื้อผ้าปรับเปลี่ยนรูปทรงผู้สวมใส่ (extreme body transform)
เครดิตภาพ : http://www.metmuseum.org/toah/artist/alexander-mcqueen/