หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / 1 กันยา สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่

1 กันยา สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่

กลับหน้าหลัก
26.08.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 924

1 กันยา สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่

แม้ว่าการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำสหรัฐฯและจีน ในการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จะสร้างความหวังในการแสวงหาข้อตกลงยุติสงครามการค้า แต่การทวีตข้อความของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ว่า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน โดยมีผลกับสินค้านำเข้ามูลค่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกเหนือจากสินค้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ถูกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 25 ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีแรงเทขายในตลาดทุน และราคาน้ำมันของสหรัฐฯดิ่งลงรับข้อมูลดังกล่าว  

แต่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนบางรายการ จากกำหนดการเดิมที่จะเริ่มเก็บภาษีในวันที่ 1 กันยายนนี้ เป็น 15 ธันวาคม ได้แก่ แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นวิดีโอเกม จอคอมพิวเตอร์ เสื้อผ้า และรองเท้า เป็นต้น ส่วนสินค้าอื่นๆ จะยังคงมีผลตามเดิม คือวันที่ 1 กันยายนนี้ รวมทั้งสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับหลายรายการที่ถูกเก็บภาษี ยกเว้นรายการ 7116.10.10 ของทำด้วยไข่มุกธรรมชาติ 7116.20.05 ของทำด้วยไข่มุกธรรมชาติหรือไข่มุกเลี้ยงทำด้วยรัตนชาติหรือกึ่งรัตนชาติ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 40 เหรียญสหรัฐต่อชิ้น 7117.19.05 เครื่องประดับเทียมชิ้นเล็กๆ ที่เป็นสายสร้อย ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 8 เซนต์ต่อชิ้น 7117.90.45 เครื่องประดับเทียมที่ไม่เป็นสายสร้อย ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 8 เซนต์ต่อชิ้น 7117.90.60 เครื่องประดับเทียมที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 8 เซนต์ต่อชิ้น 7117.90.75 เครื่องประดับเทียมทำจากพลาสติก ซึ่งมีมูลค่าเกิน 20 เซนต์ต่อโหล 

ทั้งนี้ ทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังเตรียมถอดสินค้าบางประเภทออกจากรายชื่อสินค้าที่ จะถูกเก็บภาษีด้วย โดยการตัดสินใจตั้งอยู่บนพื้นฐานของสุขภาพ ความปลอดภัย และความมั่นคงของชาติ  

ขณะที่ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้ดัชนีดาวน์โจนส์เพิ่มขึ้น 372.54 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 42.48 จุด และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 152.95 จุด โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทแอปเปิ้ลพุ่งทะยาน 4.2% ด้าน สมาคมผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของรัฐบาล แต่สมาคมผู้บริโภคสินค้าเทคโนโลยีย้ำว่า ทางที่ดีรัฐบาลควรระงับการขึ้นภาษีเป็นการถาวร และใช้แนวทางอื่นที่ดีกว่ากับการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน 

การค้าอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างสหรัฐฯและจีน 

สหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในอันดับ 2 ของจีน (รองจากฮ่องกง) โดยในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาจีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าเฉลี่ย 3,829.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่จีนมีการนำเข้าอัญมณีและ เครื่องประดับจากสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 938.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล่าสุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ 1,087.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 29.31 โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องประดับแท้ และเครื่องประดับเทียม ส่วนการนำเข้านั้น จีนนำเข้าจาก สหรัฐฯ 287.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวลงถึงร้อยละ 90.01 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้า นำเข้าหลัก ได้แก่ ของอื่นๆ ที่ทำด้วยโลหะมีค่าหรือโลหะที่หุ้มด้วยโลหะมีค่า และเครื่องประดับแท้ ผลกระทบต่อธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทย  สหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับหลักของจีน จึงมีความเป็นไปได้ว่า ผู้นำเข้าชาวอเมริกันอาจจะหันมานำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากประเทศอื่นๆ รวมถึงไทยแทน เพราะด้วยสินค้าของไทยมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาดสหรัฐฯอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆ จากจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบและสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระ ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยของชาวอเมริกัน อันอาจกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้ซบเซาลง และชาวอเมริกันก็จะลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างอัญมณีและเครื่องประดับลง ซึ่งนั่นก็อาจทำให้ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปยังสหรัฐฯไม่ได้มากเท่าที่ควร   

สงครามการค้าที่ยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วจะบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าสงครามการค้าจะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปอีก นอกเหนือจากการตอบโต้กันด้วยภาษีแล้ว ทางการจีนก็อาจพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าที่มิใช่ภาษีร่วมด้วย อาทิ เพิ่มเงื่อนไขและกีดกัน ธุรกิจของสหรัฐฯในจีน ลดค่าเงินหยวน การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่จีนถือครองอยู่ 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือการจำกัดการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ เป็นต้น  

นอกจากนี้ จีนได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) จากความไม่เป็นธรรมทางการค้ากับสหรัฐฯ ในขณะที่สหรัฐฯก็อาจกดดันให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งความไม่แน่นอนเหล่านี้ทำให้ความเชื่อมั่นทางการค้าและการลงทุนของโลกลดลง และนำไปสู่การฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกได้ในที่สุด และเนื่องจากอัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก ฉะนั้นการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยก็ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องได้รับผลกระทบดังกล่าวทำให้ส่งออกไปยังตลาดโลกได้น้อยลงด้วยเช่นกัน 

ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

สิงหาคม 2562

--------------------------------------------------------------

ข้อมูลอ้างอิง:

1) Chinese Jewelry Will Still Be Tariffed in 3 Weeks. Retrieved August 9, 2019, from https://www.jckonline.com 

2) https://ustr.gov/sites 

3) หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวนัที่ 15 สิงหาคม 2562 

4) "ทรัมป์" ยอมถอยเลื่อนขึ้นภาษี "ไอโฟน" ผลิตในจีน https://www.nationtv.tv/main/content/378732797 

*** กรุณาอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)” ทุกครั้ง เมื่อนำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อ

ภาวะอัญมณี, อุตสาหกรรม, อัญมณีและเครื่องประดับ, GIT, เครื่องประดับ, ‘แหวนมือขวา, สัญลักษณ์, การแต่งงาน, การหมั้นหมาย