“พาณิชย์” แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกรับมือ หลังอียูจำกัดปริมาณการใช้สารหน่วงการติดไฟ DecaBDE ในสินค้า

กลับหน้าหลัก

“พาณิชย์” แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกรับมือ หลังอียูจำกัดปริมาณการใช้สารหน่วงการติดไฟ DecaBDE ในสินค้า

“พาณิชย์” แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกรับมือ หลังสหภาพยุโรปแก้ไขประกาศเพิ่มข้อกำหนดการใช้สารหน่วงการติดไฟ DecaBDE ในสินค้าผลิตภัณฑ์สิ่งทอ พลาสติก กาว ยาแนว สารเคลือบผิวและหมึกพิมพ์ ในรูปแบบของส่วนประกอบต้องมีส่วนผสมของสารดังกล่าวไม่เกิน 0.1% หากต้องการใช้สารดังกล่าวในการผลิตสินค้า เพื่อวางจำหน่ายในตลาดอียู

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกกฎระเบียบ Regulation (EU) 2017/227 แก้ไข Annex XVII Entry 67 ของกฎระเบียบ Regulation (EC) No 1907/2006 ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการจดทะเบียน การประเมินความเสี่ยง การขออนุญาต และการจำกัดการใช้สารเคมีของสหภาพยุโรป (REACH) โดยได้เพิ่มการจำกัดปริมาณการใช้สาร Bis (pentabromophenyl) ether หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า DecaBDE ซึ่งเป็นสารหน่วงการติดไฟที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์พลาสติก กาว ยาแนว สารเคลือบผิวและหมึกพิมพ์ ประกอบกับไม่อนุญาตให้ใช้สาร DecaBDE ในการผลิตหรือวางจำหน่ายในตลาดในรูปแบบของส่วนประกอบของสารอื่นๆ สารผสม และผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของสารนี้เท่ากับหรือมากกว่า 0.1% โดยน้ำหนัก และประกาศนี้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การใช้สารหน่วงการติดไฟ DecaBDE เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์บางอย่างจะได้รับการยกเว้นในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น 1. อะไหล่ของยานยนต์ที่อยู่ในขอบเขตของ Directive 2007/46/EC ยานพาหนะเพื่อการเกษตรและป่าไม้ที่อยู่ในขอบเขตของระเบียบ (EU) No. 167/2013 หรือเครื่องจักรในขอบเขตของ Directive 2006/42/EC ที่ผลิตก่อน 2 มี.ค. 2562 และ 2. เครื่องบินและอะไหล่ของเครื่องบินที่มีการผลิตก่อนวันที่ 2 มี.ค. 2570 โดยประเภทเครื่องบินที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ เครื่องบินพลเรือน ที่มีการผลิตสอดคล้องกับใบรับรองที่ออกภายใต้ Regulation (EU) No 216/2008 ของสหภาพยุโรป หรือได้รับอนุมัติการออกแบบภายใต้กฎระเบียบแห่งชาติของรัฐผู้ทำภาคีสัญญาขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (The International Civil Aviation Organization : ICAO) หรือใบสำคัญสมควรเดินอากาศ (Certificate of Airworthiness) ที่ออกโดยรัฐผู้ทำสัญญา ICAO ภายใต้ Annex 8 ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (The Convention on International Civil Aviation) หรือที่เรียกกันว่าอนุสัญญาชิคาโก (Chicago Convention) และเครื่องบินทหาร

จากข้อมูลสถิติการส่งออกสินค้าเคมีภัณฑ์ไปสหภาพยุโรปในภาพรวม 3 ปีย้อนหลัง ช่วงปี 2559-2561 พบว่ามีมูลค่า 7,741.6, 13,405.7 และ 9,527.1 ล้านบาทตามลำดับ และในช่วง 2 เดือน ปี 2562 (ม.ค.-ก.พ.) มีการส่งออกเคมีภัณฑ์ไปสหภาพยุโรปมูลค่า 1,122.2 ล้านบาท ลดลง 47.30%

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการนำเข้าสินค้าและข้อกำหนดของสหภาพยุโรปได้อย่างถูกต้อง ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลข้างต้นเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32017R0227&from=EN ในการเตรียมความพร้อมให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายฉบับดังกล่าวได้อย่างไม่เป็นอุปสรรคทางการค้า

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9620000040760