หน้าแรก / THTI Insight / ความเคลื่อนไหวอุตสาหกรรม / นโยบายที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของธุรกิจแฟชั่น

นโยบายที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของธุรกิจแฟชั่น

กลับหน้าหลัก
25.04.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 5596

นโยบายที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของธุรกิจแฟชั่น

ในปัจจุบันมีวัสดุที่ใช้สำหรับผลิตเครื่องแต่งกายมากกว่า 73 เปอร์เซ็นต์ถูกฝังกลบหรือเผา มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของวัสดุที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ Ecopreneur สหพันธ์ธุรกิจที่ใส่ใจความยั่งยืนในยุโรปเรียกร้องให้มีมาตรการเชิงนโยบายเพื่อกำหนดกรอบการทำงานเพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนของแฟชั่น

Ecopreneur เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกําไรของเบลเยี่ยมมีเป้าหมายในการเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในเมืองบรัสเซลส์ ประกอบด้วยสมาคมสมาชิกห้าแห่งจากประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปที่เป็นตัวแทนของธุรกิจมากกว่า 3,000 ธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืน

จากรายงาน 'การสนับสนุนแฟชั่นแบบหมุนเวียน: กลยุทธ์สู่อุตสาหกรรมแฟชั่นหมุนเวียนในยุโรป' ได้สำรวจสาเหตุของกระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย และการบริโภคเสื้อผ้าในปัจจุบันที่ไม่ยั่งยืน

ในปัจจุบันรูปแบบการผลิตเครื่องแต่งกายส่วนใหญ่จะเป็นแบบเส้นตรงส่งผลทำให้เกิดของเสียจำนวนมากคือ ใช้ทรัพยากรผลิตสินค้าและย่อยสลาย ซึ่งของเสียจำนวนมากไม่สามารถนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่  ในบางครั้งถูกใช้ประโยชน์ในระยะเวลาสั้น ๆ และหลังจากนั้นจะถูกทิ้ง

ในขณะเดียวกันนอกเหนือจากปัญหาสิ่งแวดล้อม Ecopreneur กล่าวว่าอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับปัญหาทางสังคมจำนวนมาก เช่น สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ดี ความยากจน การเอารัดเอาเปรียบ การข่มเหง และความไม่เท่าเทียมทางเพศ

รายงานดังกล่าวระบุว่า "อุตสาหกรรมแฟชั่นจำเป็นต้องปรับตัวจากการผลิตแบบเส้นตรงไปสู่รูปแบบการผลิตแบบหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนหรือแบบไหลเวียน เสื้อผ้า สิ่งทอ และเส้นใย จะถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและนำกลับเข้ามาสู่กระบวนการผลิตใหม่หรือนำมาใช้ซ้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุอย่างสิ้นเปลือง

"การปรับตัวของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่หันมาให้ความสนใจกับระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสร้างความยั่งยืนและเสริมสร้างจริยธรรมของอุตสาหกรรมแฟชั่นในอนาคต"

การตีพิมพ์โดยมูลนิธิ C&A นั้นมีความขัดแย้งกับการสอบสวนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรในเรื่องของ Fast Fashion และการมุ่งเน้นบทบาทของผู้มีส่วนร่วมในการทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนของแฟชั่น

ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของแฟชั่น ผลิตภัณฑ์และวัสดุจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่เป็นวงจรไม่รู้จบผ่านการซ่อมแซมและบำรุงรักษา การนำกลับมาใช้ซ้ำ การแปรรูปทางอุตสาหกรรม การออกแบบและการรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นหรือส่งต่อไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ (หรือนำมาจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ ) ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนใช้วัสดุที่ปลอดภัยเกิดการสร้างระบบนิเวศขึ้นใหม่ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม มีการที่ใช้ทรัพยากรและพลังงานหมุนเวียนรวมถึงวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่นั้นสะอาด ทำให้การแข่งขันของสินค้าราคาถูกและคุณภาพต่ำถูกกำจัด

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจหมุนเวียนของแฟชั่นยังคงมีประเด็นบางอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไข

ผู้เขียนรายงานกล่าวว่า “เทรนด์แฟชั่นจำเป็นต้องถูกแยกออกจากโมเดลธุรกิจ การขายผลิตภัณฑ์และบริการต้องเหมาะสมกับราคาและประสิทธิภาพที่แท้จริง” นอกจากนี้ประเทศต่างๆจำเป็นต้องสร้างและบังคับใช้กฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นแบบหมุนเวียนกล่าวคือสร้างระบบที่มีความโปร่งใส มีการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม มีการกำหนดความต้องการหรับผลิตภัณฑ์แฟชั่นในตลาด

จากรายงานได้สรุป 5 ประเด็นสำคัญที่เป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบาย

• นโยบายด้านนวัตกรรม – การอุดหนุนและการลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนด้านการวิจัย การสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

• แรงจูงใจทางเศรษฐกิจ – การเพิ่มขอบข่ายความรับผิดชอบของผู้ผลิต การเปลี่ยนแปลงระบบภาษีเพื่อขับเคลื่อนความต้องการของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการแบบหมุนเวียน

• กฎระเบียบ – การจัดตั้งและบังคับใช้กฎระเบียบข้อบังคับเพื่อความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบย้อนกลับ การออกแบบผลิตภัณฑ์แบบหมุนเวียน และส่งเสริมการลดการปล่อยของเสียทั่วสหภาพยุโรป

• นโยบายการค้า – อำนวยความสะดวกในด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป และแยกประเภทวัสดุที่สามารถนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ให้กับประเทศผู้ผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศผู้ผลิต

• การกระทำโดยสมัครใจ – ควรส่งเสริมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยการออกกฎหมายรองรับผ่านข้อกำหนด ข้อผูกมัด และมาตรฐาน

“รัฐบาลมีหน้าที่ในการออกนโยบายเพื่อให้บริษัทสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ หากรัฐบาลไม่มีการกำหนดกรอบนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้” Douwe Jan Joustra หัวหน้าฝ่ายการเปลี่ยนแปลงแบบหมุนเวียนของมูลนิธิ C&A อธิบาย “ความตั้งใจของรายงานนี้คือต้องการให้องค์กรหรืออุตสาหกรรมเป็นกลุ่มแรกที่มีการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน”

"ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิ C&A ทำให้ Ecopreneur ได้ทำงานร่วมมือกับองค์การนอกภาครัฐ (NGO) และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ในการขยายเครือข่ายธุรกิจในทวีปยุโรปและสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นในการสร้างกลยุทธ์นโยบายเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนในทวีปยุโรป"

Manfred Mühlberger ประธาน Ecopreneur กล่าวเสริมว่า "Ecopreneur แนะนำว่าการพัฒนานโยบายที่เหมาะสมควรเป็นการผสมผสานกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ รวมถึงการสื่อสารและการดำเนินการที่ระบุไว้ในรายงาน พวกเราจึงเรียกร้องให้อุตสาหกรรมแฟชั่นร่วมสนับสนุนแฟชั่นหมุนเวียน"

ที่มา : https://www.just-style.com/analysis/bold-policies-needed-to-mainstream-sustainable-fashion_id136012.aspx

เรียบเรียงโดย : อิสเรศ วงศ์เสถียรโสภณ (ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัลอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ)

สิ่งแวดล้อมสิ่งทอ, อุตสาหกรรม, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, มาตรการ, สิ่งแวดล้อม, Ecopreneur, เบลเยี่ยม, Fast Fashion, เศรษฐกิจหมุนเวียน, Circular Economy