กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อม กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าเชื่อมโยงนักออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา “หัตถกรรมสิ่งทอไทยสู่สากล” ในชุมชนต้นแบบ 4 ภูมิภาค เชื่อมโยงนักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ ภายใต้กิจกรรมการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ ภายใต้โครงการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แฟชั่นและหัตถกรรมสิ่งทอระหว่างประเทศ (Reinvented Roots, Resilient Futures) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ตามนโยบาย 4 ให้ 1 ปฏิรูป ให้ทักษะใหม่ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย ตามกลไกด้านการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ในกิจกรรมได้ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาชุมชนต้นแบบ 4 ภูมิภาค  ประกอบไปด้วย
ภาคเหนือ
1. ชุมชนออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 2. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านป่าตาล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
3. ชุมชนต้นแบบกลุ่มปัน (PUN)อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  1.กลุ่มชุมชนทอผ้าพื้นเมืองเชียงหวาง ตำบลเชียงหวาง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
2. ขวัญตา handicraftจ.หนองบัวลำภู 3. ฅญาบาติก จ.นครราชสีมา
ภาคกลาง 1. กลุ่มทอผ้าศรีอุทุมพร (วัดโพรงมะเดื่อ) จ.นครปฐม 2. กลุ่มทอผ้าวงเดือน ผ้าจกไท-ยวน จ.นครปฐม
3. กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านเกาะแรต  จ.นครปฐม
ภาคใต้ 1. ดาหลา ปาเต๊ะ จ.สตูล 2. บ้านยวนบาติก จ.สตูล 3. สตูลบาติก จ.สตูล
โดยตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรและนักออกแบบหัตถกรรมสิ่งทออย่างสร้างสรรค์ต่อยอดทุนวัฒนธรรมไทยพัฒนาไปสู่สินค้าแฟชั่นไทยในระดับสากลจำนวนไม่น้อยกว่า 100 คน ซึ่งมีผลงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบชุมชนละ 3 คอลเลคชั่น รวม 4 ชุมชน 12 ผลิตภัณฑ์
 
โดยให้องค์ความรู้ ในหัวข้อ อาทิ ด้านความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดปัจจุบัน ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการพัฒนาองค์ความรู้ด้านแฟชั่นในระดับสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอไทย ด้านการสื่อสารและการสร้างภาพลักษณ์ การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ ตลอดจนถึง ด้านการตลาดทั้งในประเทศและระดับสากล

ทั้งนี้ เพื่อนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ถ่ายทอดสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มผู้ประกอบการเป้าหมายใน 4 ภูมิภาค เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ และภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอไทย สู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ และก้าวเข้าสู่ตลาดสากลได้อย่างยั่งยืน