สศอ.ร่วมกับสถาบันฯสิ่งทอและพันธมิตรเครือข่าย สัมมนาพลิกโฉมอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่อนาคตที่ยั่งยืน

สัมมนา GFT FORUM 2023 พลิกโฉมอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่อนาคตที่ยั่งยืน : CHANGE FOR BETTER SUSTAINBILITY IN THE TEXTILE INDUSTRY สนับสนุนโดย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยจัดขึ้น เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้อง MR222 ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

โดยมี ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอกล่าว เปิดงาน พร้อมร่วม Mini Talk "เพิ่มเทคโนโลยี-productivity -ระบบคุณภาพด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่ความยั่งยืน"กับ คุณสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และ คุณจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ เพื่อเปิดแนวคิดพร้อมเร่งประสานความร่วมมือเดินหน้าอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่ความยั่งยืน

พร้อมจัดเสวนา พลิกโฉมอุตสาหกรรมสิ่งทอสู่อนาคตที่ยั่งยืน : CHANGE FOR BETTER SUSTAINBILITY IN THE TEXTILE INDUSTRY โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเสวนา ประกอบไปด้วย
คุณสมคิด รัตนประภาพร นายกสมาคมอุตสาหกรรมเส้นใยประดิษฐ์ไทย
คุณชัยวัฒน์ ชัยปณิธิพันธ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกย้อมพิมพ์และตกแต่งสิ่งทอไทย
ผศ.ดร.อโนทัย ชลชาติภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวเรเตอร์ จำกัด
คุณอมรพล หุวะนันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง moreloop  

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน การผลิตสิ่งทอเพื่อความยั่งยืน จึงนับเป็นสิ่งสำคัญและอาจกลายเป็นจุดแข็งสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอในอนาคต จากปัจจัยบวกในเรื่องของความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้วัตถุดิบธรรมชาติในการผลิต และความสามารถของผู้ผลิตในประเทศในการผลิตสิ่งทอจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิล การพัฒนาของอุตสาหกรรมสิ่งทอในระยะต่อไปจึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ และร่วมกันสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆเพื่อรองรับอุตสาหกรรม New S-Curve โดยหนึ่งในแนวทางการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ คือ การเปลี่ยน รูปแบบธุรกิจ จากผู้รับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment Manufacture: OEM) เป็นผู้ออกแบบ และรับจ้างผลิตตามที่ตลาดต้องการ (Original Design Manufacture: ODM) หรือการนำไปสู่ การผลิตสินค้าในนามแบรนด์ของตัวเองออกมาจำหน่าย (Original Brand Manufacture: OBM) และการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตให้สอดคล้องกับโครงสร้างของปัจจัยการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีการผลิตและระบบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งภาคการผลิตจำเป็นต้องพัฒนากระบวนการผลิตและรับรู้แนวโน้มความต้องการของตลาดเพื่อวางแผนการผลิตให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต ในอุตสาหกรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ 

จากความสำคัญดังกล่าว สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จึงได้ประสานความร่วมมือ กับ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งมีพันธกิจ ยกระดับขีดความสามารถด้วยการ สร้างความสามารถให้บุคลากรและองค์กร ยกระดับผลิตภาพของธุรกิจ สร้างความเข้มแข็งระบบนวัตกรรม สร้างความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์และบริการของไทยด้วยคุณภาพ มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของประเทศไทยผ่านการเพิ่มผลิตภาพ และสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ซึ่งมีพันธกิจในการช่วยสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีการเติบโต พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและองค์กร อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยการให้บริการด้านข้อมูลและองค์ความรู้ การฝึกอบรม การพัฒนามาตรฐาน และการตรวจสอบรับรองตามมาตรฐานไอเอสโอและมาตรฐานระบบอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและคุณภาพของอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านการรับรองของประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ สู่ความเป็นเลิศด้านความสามารถในการดำเนินการอย่างยั่งยืน โดยทั้ง 3 สถาบันนั้น เป็นหน่วยงานเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การดูแลของอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อร่วมกันผลักดันให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยเปลี่ยนผ่านจาก OEM ไปสู่ ODM และ OBM พร้อมนำไปสู่อุตสาหกรรมที่ยั่งยืนภายใต้ สถานการณ์โลกในปัจจุบัน นับเป็นประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน พร้อมเร่งเพิ่มศักยภาพทั้งในมิติด้านเทคโนโลยีการผลิตและระบบคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิตในอุตสาหกรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับอนาคต 

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (สะสม)     4 เดือน (เดือนมกราคม-เมษายน 2566) พบว่า การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่ารวม 1,982.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาพรวมการนำเข้า (สะสม) 4 เดือนของอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมูลค่ารวม 1,679.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.6 และส่งผลให้ภาพรวมเกิดดุลการค้า (สะสม) เกินดุล คิดเป็นมูลค่า 303.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สรุปข่าวประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ 
1. https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid037WVebhwo5weCL8QNCLom4CBFCnjmqSyUidQLjhAAMgdRYkkg5m151ScASKtxwkGdl&id=100083315412214&mibextid=Nif5oz
2. https://mgronline.com/smes/detail/9660000057463
3. https://bangkok-today.com/%e0%b8%aa%e0%b8%96%e0%b8%b2%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%af%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%ad-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-2-%e0%b8%aa%e0%b8%96/
4. https://www.pimthai.net/169406/
5. https://www.springnews.co.th/keep-the-world/sustainable/840360
6. https://siamrath.co.th/n/457201
7. https://www.prnewsthailand.com/view/71344
8. https://www.naewna.com/business/739350
9. https://aws.iqnewsclip.com/agent.aspx?D=bcaSiMxAF4B
10. https://www.kaosanonline.com/?p=34251
11 .https://www.thansettakij.com/sustainable/zero-carbon/568876
12 .https://www.mmthailand.com/thti-material-quality-save-the-world/
13. https://www.facebook.com/100079084137484/posts/pfbid0y4o7qE48MDpdtZm7xQYRSvY1DXgFDCZW21fHW3XHQmZGhcjA6KErJ589ctwJAbRil/?mibextid=cr9u03