หน้าแรก
/
THTI Activities
/
23 ปี สถาบันฯสิ่งทอ ชวนร่วมกิจกรรม หลอดใช้แล้วเราขอ ส่งต่อหมอนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง
23 ปี สถาบันฯสิ่งทอ ชวนร่วมกิจกรรม หลอดใช้แล้วเราขอ ส่งต่อหมอนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง
10.10.2562 | จำนวนผู้เข้าชม 2180
23 ปี สถาบันฯสิ่งทอ กับโครงการCSR ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร
ชื่อโครงการ“หลอดใช้แล้วเราขอ ส่งต่อทำหมอนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง”
1. หลักการและเหตุผลในการจัดกิจกรรม
ประเทศไทยติด 1 ใน 5 กลุ่มผู้นำเข้าขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก นั่นเองทำให้ในปัจจุบันขยะยังคงเป็นปัญหาหลักที่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไป จากข้อมูลสถานการณ์ของขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย กรมควบคุมมลพิษ (ที่มา :สรุปสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2561) ประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มปริมาณขยะเพิ่มขึ้น โดยในปี 2561 มีมากกว่า 27.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 กว่า 1.64 % ซึ่งมีเพียง 34 % เท่านั้นที่ถูกคัดแยกและนำกลับไปใช้ประโยชน์ ส่วน 39 % ได้รับการกำจัดอย่างถูกต้อง และ 27 % กำจัดไม่ถูกต้องกลายเป็นปัญหา ปัจจัยหลักๆ มาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร เศรษฐกิจต่าง ๆ ที่กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกันแนวโน้มในการจัดการขยะมูลฝอยถือว่าดีขึ้น แต่ขยะพลาสติกกลับมีเพียง 5 แสนตันจาก 2 ล้านตันเท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลใหม่ ที่เหลืออีก 1.5 ล้านตัน ที่ไม่ได้รับการรีไซเคิลนั้นจึงกลายเป็นขยะ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในบริเวณรอบ ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากจะจัดการปัญหาขยะไม่หมดแล้ว ยังมีการสร้างขยะเพิ่มขึ้นทุกวัน ตัวอย่างพฤติกรรมการดื่มกาแฟของสังคมในปัจจุบัน พบว่า กาแฟหนึ่งแก้วสามารถสร้างขยะได้ 3 ชิ้น และ 1 ใน 3 ถูกพบมากในทะเล
โดยประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 5 ของโลก ที่มีการทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุด จากผลสำรวจของทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยจอร์เจีย และจากผลการศึกษาของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) รายงานการจำแนกขยะในทะเล พบว่าหลอดพลาสติกมีมากเป็นอันดับ 2 รองจากถุงพลาสติก ซึ่งขยะพลาสติกเหล่านี้นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลโดยตรงแล้ว เมื่อผ่านไปเป็นระยะเวลานาน พลาสติกจะสลายตัวเป็น "ไมโครพลาสติก" หรือชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดเล็กมากไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สามารถปนเปื้อนไปกับสัตว์ทะเลต่าง ๆ และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้เกิดการหมุนเวียนเข้าไปสู่ร่างกายมนุษย์ได้ในอนาคต และอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร
สังคมในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการดำเนินชีวิต และการเติบโตของเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้ต้องผลิตสินค้าและบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ตามวิถีชีวิตของผู้คนและชีวิตที่เร่งรีบ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งนั้น เมื่อไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้งานอีกแล้วก็กลายเป็นขยะพลาสติก แต่กระแสการตื่นตัวในเรื่องการลดปัญหาขยะต่าง ๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากกระแสการงดใช้ถุงพลาสติก หรืองดให้ถุงพลาสติกตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หันมาใช้ถุงผ้า หรือต้องจ่ายเงินค่าถุงใส่ของแทน การหันมาพกแก้วน้ำส่วนตัว แทนการใช้แก้วพลาสติก การงดใช้หลอดพลาสติก พกหลอดส่วนตัว และแคมเปญอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยโครงการ “หลอดใช้แล้วเราขอ ส่งต่อทำหมอนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง”มีแรงบันดาลใจจากการสังเกตการใช้ชีวิตประจำวันของบุคลากรภายในองค์กรว่ามีการซื้อน้ำดื่ม น้ำหวาน กาแฟกันคนละแก้วทั้งเช้า พักเที่ยง หรือในระหว่างเวลาทำงาน เมื่อไม่ได้ใช้แล้วก็จะทิ้งไปกลายเป็นขยะ แต่ถ้านำขยะเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ใหม่ได้โดยเฉพาะหลอดพลาสติกนำมาทำหมอนจากหลอดพลาสติก เพื่อนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึก สามารถช่วยลดปัญหาขยะ การรู้จักสร้างคุณค่าให้กับสิ่งต่าง ๆ และยังสร้างจิตสำนึก จิตสาธารณะให้กับบุคลากรภายในสถาบันฯอีกด้วย
ซึ่งการดำรงอยู่ และความก้าวหน้าขององค์กรอย่างยั่งยืน เกิดขึ้นได้มีหลายปัจจัยที่ช่วยส่งเสริม ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงาน หรือบริหารงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ และการร่วมมือร่วมใจของบุคลากร นั่นเป็นเพียงปัจจัยภายในองค์กรที่ช่วยรักษาและขับเคลื่อนองค์กรให้ไปข้างหน้า แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญ หรือปัจจัยภายนอกนั่นเองสามารถเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยเหลือ ผลักดันองค์กรให้พัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นสังคม ชุมชนรอบข้างองค์กร และประชาชนทั่วไป หรือที่เรียกว่า “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” การมีส่วนร่วมกับกลุ่มคนเหล่านี้คือสิ่งหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ ภาพลักษณ์ขององค์กรที่ดี และสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทและหน้าที่ขององค์กร ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอมีจิตสำนึก จิตสาธารณะ และมีความสามัคคีร่วมกันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างสัมพันธ์ และภาพลักษณ์ที่ดี ข้าพเจ้าจึงเล็งเห็นความสำคัญในการจัดโครงการ CSRความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อสร้างจิตสาธารณะ และความสามัคคีภายในองค์กร
2.2 เพื่อสร้างสัมพันธ์ และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร
2.3 เพื่อลดปริมาณของขยะที่เกิดขึ้นในองค์กร พื้นที่ใกล้เคียง และจากความร่วมมือในพื้นที่อื่น ๆ
2.4 เพื่อช่วยเหลือสังคม
3. กลุ่มเป้าหมาย
1.บุคลากรของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
2.ประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียง
3.บุคคลทั่วไปหน่วยงาน องค์กร พันธมิตรของสถาบันฯ
4. ขั้นตอนในการดำเนินงาน
4.1 ทำแบบสอบถามความต้องการในการจัดโครงการ
4.2 ประชาสัมพันธ์รูปแบบของโครงการ และเนื้อหาข้อมูลต่าง ๆ (ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม ,วิถีในการทำความสะอาดหลอดพลาสติก) โดยประชาสัมพันธ์ทางแฟนเพจ เว็บไซต์ ทวิตเตอร์ของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเชิญชวนโดยการพูดคุยบอกต่อกับบุคลากรในองค์กร และโปสเตอร์เพื่อประชาสัมพันธ์
4.3 จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรม สำหรับทำความสะอาดหลอดพลาสติก ไว้ตามจุดต่าง ๆ ในสถาบัน ฯ เช่น ห้องน้ำ และโรงอาหาร
4.4 รับบริจาคหลอดพลาสติกและผ้า (เพื่อทำเป็นปลอกหมอน) จากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และผู้ที่สนใจบริจาค เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมด้วย
4.5 ติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลที่จะรับบริจาค “หมอนหลอดพลาสติก”
4.6 บุคลากรในองค์กร ช่วยกันทำหมอนจากหลอดพลาสติก
4.7 นำหมอนที่ทำสำเร็จแล้วไปบริจาค จำนวนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
4.8 ส่งแบบประเมินให้บุคลากรในองค์กร
5. ผลิตสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ ภาพข่าว คลิปวิดีโอ โปสเตอร์ แบรนด์เนอร์ ต่าง ๆ
6. ช่องทางการประชาสัมพันธ์
6.1 บอร์ดประชาสัมพันธ์ในองค์กร
6.2 สื่อออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์ Thailand textile instituteและเว็บไซต์ต่าง ๆ FacebookTwitter YouTube
6.3 สื่อออฟไลน์ อาทิ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ
7. การประสานงาน (สถานที่ที่จะไปบริจาค)
โรงพยาบาลทหารผ่านศึก (สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม)
8. งบประมาณ
-
9. พื้นที่ในการดำเนินงาน
- สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
10. ระยะเวลาดำเนินงาน
ระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2562
ส่งหลอดที่ทำความสะอาดแล้วมาได้ที่
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ซอยตรีมิตร ถนนพระรามที่ 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนงานประชาสัมพันธ์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
โทร.0 2713 5492 - 9 ต่อ 710 หรือ คุณมยุรี 08 5044 8689 /คุณวินิลรัตน์ จันทร์เทศนา 09 1873 2375
สิ่งทอ,สิ่งทอ